วันนี้ ( 6 ส.ค. 63 )นายวิศรุต อังศุภากร ผู้อำนวยการสายงานวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) ของบริษัท ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ iiG (ชื่อย่อหุ้น IIG) เปิดเผยว่า จากการที่หุ้น IIG เปิดทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) วันนี้ (6 ส.ค.) เป็นวันแรก ปรากฏว่าหุ้น IIG สามารถเปิดตลาดเหนือราคาจองซื้อ อยู่ที่ราค 19.80 บาท โดยเพิ่มขึ้น 13.20 บาท หรือคิดเป็น 200% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความน่าสนใจของบริษัทฯ และผลตอบรับที่ดีจากนักลงทุน
ขณะที่ราคาปิดตลาดภาคเช้า 12.30 น. IIG ยังสามารถยืนระดับที่ 19.80 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขายที่ 128.34 ล้านบาท
“การที่ราคาหุ้นเปิดตลาดเหนือจอง นอกเหนือจากความมั่นใจในการบริหารและปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ แล้ว นักลงทุนยังเห็นถึงแนวโน้มหุ้นที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากผลประกอบการของบริษัทฯ ที่มีโอกาสเติบโตได้อีกมาก อีกทั้งแนวโน้มของธุรกิจด้านเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมและได้รับผลตอบรับอย่างดีในสถานการณ์ปัจจุบัน ยิ่งตอกย้ำความสามารถในการเติบโตของบริษัทฯได้ในอนาคต” นายวิศรุต กล่าว
ข่าวเกี่ยวข้อง
mai ต้อนรับ บมจ. ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป (IIG) เริ่มซื้อขาย 6 ส.ค. นี้
ด้านนายสมชาย เมฆะสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป จำกัด ( มหาชน) หรือ iiG กล่าวว่า สำหรับราคาหุ้นในวันนี้นั้น บริษัทฯ ได้ปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด แต่การที่ราคาหุ้นสามารถเปิดตลาดเหนือราคาจองซื้อนั้น บริษัทฯ รู้สึกขอบคุณทุกท่านอีกครั้งที่ได้ให้ความไว้วางใจแก่บริษัทฯ ซึ่ง iiG เองก็พยายามทำอย่างเต็มความสามารถ เพื่อตอบรับความเชื่อมั่นที่นักลงทุนมีต่อบริษัทฯ และเชื่อว่าทีมผู้บริหารทุกท่าน จะไม่สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุน จากประสบการณ์ในธุรกิจที่มีมาอย่างยาวนานกว่า 30 ปี จะยิ่งทำให้บริษัทฯ แข็งแกร่งและพร้อมรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมในอนาคต
IIG ดำเนินธุรกิจให้คำปรึกษาด้านบริการด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีครบวงจรมาแล้วกว่า 28 ปี โดยเป็นที่ปรึกษาและให้บริการออกแบบติดตั้งระบบ 2 ประเภทหลัก ได้แก่ 1) ระบบบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) และให้เช่าใช้ซอฟต์แวร์ Salesforce และ 2) ระบบการวางแผนทรัพยากรทางธุรกิจขององค์กรโดยรวม (ERP) และเป็นตัวแทนจำหน่ายซอฟต์แวร์ Oracle
นอกจากนี้กลุ่มบริษัทยังดำเนินธุรกิจให้บริการจัดหาบุคลากรในส่วนงานสารสนเทศ และธุรกิจที่ปรึกษาด้านการวางแผนกลยุทธ์แบรนด์ การสร้างและบริหารประสบการณ์ และการตลาดดิจิทัล โดยกลุ่มลูกค้าหลักคือกลุ่มสถาบันการเงินและธนาคาร กลุ่มธุรกิจประกันชีวิต กลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตและก่อสร้าง กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มธุรกิจการแพทย์ และกลุ่มธุรกิจห้างสรรพสินค้า
การนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในครั้งนี้จะช่วยสร้างฐานทุนที่แข็งแกร่ง โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปลงทุนในการพัฒนาและก่อตั้งศูนย์พัฒนาซอฟต์แวร์ (Developing Center) ลงทุนพัฒนาผลิตภัณฑ์ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
โครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO 3 อันดับแรก ได้แก่ กลุ่มเมฆะสุวรรณโรจน์ ถือหุ้น 36.51% กลุ่มโพธิรัตน์สมบัติ ถือหุ้น 14.21% และกลุ่มรักอำนวยกิจ ถือหุ้น 13.97% บริษัทมีนโยบายจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัท ภายหลังจากหักภาษีและเงินทุนสำรองต่าง ๆ ตามกฎหมาย
อนึ่งราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) เท่ากับ 12.05 เท่า โดยคำนวณจากผลประกอบการของบริษัทในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา (ตั้ 1 เมษายน 2562-31 มีนาคม 2563) เท่ากับ 54.79 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.55 บาทต่อหุ้น โดยมี บล. โนมูระ พัฒนสิน เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย