นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ กรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (GULF) แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า เนื่องด้วยในปัจจุบัน ทิศทางพลังงานโลกได้เปลี่ยนจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลมาเป็นพลังงานสะอาดมากขึ้นโดยมีเป้าหมายในการลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกและลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Carbon) ภายในปี ค.ศ.2050 ตามข้อตกลงปารีส (Paris Agreement) ที่ประชาคมโลกซึ่งมีสมาชิกกว่า 190 ประเทศได้ร่วมลงนามไว้ เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นต่อการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ของโลก
ทั้งนี้ GULF ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาและดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนมาโดยตลอด จึงได้กำหนดกลยุทธ์ทางธุรกิจที่มุ่งเน้นการลงทุนในธุรกิจพลังงานหมุนเวียน สอดคล้องกับนโยบายภาครัฐและทิศทางของโลก โดยยึดมั่นในนโยบายไม่ลงทุนในธุรกิจถ่านหิน (No Coal Policy) อีกทั้งได้ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งจากพลังงานหมุนเวียนให้มากกว่า 30% ของกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งรวมของบริษัทภายในปี 2573 ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทได้มีการลงทุนในโครงการพลังงานหมุนเวียน ทั้งในแถบประเทศยุโรป แถบประเทศเอเชีย รวมถึงประเทศไทย
ดังนั้น เพื่อให้การกำหนดทิศทางดำเนินธุรกิจของบริษัทเกิดความชัดเจน และพร้อมรองรับการขยายตัวของธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนต่อไปในอนาคต เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2564 คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติให้บริษัทจัดโครงสร้างการลงทุนในกลุ่มบริษัทใหม่ โดยเปลี่ยนชื่อบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 100% และประกอบกิจการโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) มาเป็น บริษัท กัลฟ์ รีนิวเอเบิล เอ็นเนอร์จี จำกัด (Gulf Renewable Energy)
อย่างไรก็ตาม จะนำบริษัทย่อยที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจพลังงานหมุนเวียนทั้งหมดของบริษัทที่ดำเนินการอยู่อาทิ โครงการพลังงานลมในทะเลที่ประเทศเยอรมนี (BKR2) โครงการพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมในทะเลที่ประเทศเวียดนาม โครงการโซล่าร์รูฟท็อบและพลังงานชีวมวลที่ประเทศไทย และอื่น ๆ มาบริหารงานภายใต้ Gulf Renewable Energy อีกทั้งการลงทุนในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนอื่น ๆ ในอนาคต จะดำเนินการภายใต้ Gulf Renewable Energy เช่นกัน
สำหรับการปรับโครงสร้างการลงทุนดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อสัดส่วนการลงทุนสุทธิ (Effective Shareholding Ratio) ของบริษัทในบริษัทย่อย และไม่เข้าข่ายเป็นรายการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 20/2551 เรื่องหลักเกณฑ์ในการทำรายการที่มีนัยสำคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียน