บลจ.ทิสโก้ปลื้ม TSF-A ขึ้นท็อปชาร์ตกองทุนหุ้นไทย

08 พ.ย. 2564 | 08:22 น.
อัปเดตล่าสุด :08 พ.ย. 2564 | 15:22 น.

บลจ.ทิสโก้ชูธงรบ ส่งกองทุน TSFRMF-A ลงทุนในกองทุน ทิสโก้ สแตรทิจิก ฟันด์(TSF -A) กองทุนหุ้นไทย ที่มีงานย้อนหลังในระดับท็อป ด้วยการลงทุนเชิงรุก เปิดขายหน่วยลงทุนครั้งแรก(IPO) 8- 17 พ.ย. 2564

นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาดและที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ทิสโก้ จำกัดเปิดเผยว่า บลจ.ทิสโก้เปิดเสนอขาย กองทุนเปิด ทิสโก้ สแตรทิจิก เพื่อการเลี้ยงชีพ ชนิดผู้ลงทุนทั่วไป (TSFRMF-A) ซึ่งลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนเปิด ทิสโก้ สแตรทิจิก ฟันด์ ชนิดหน่วยลงทุน A หรือ TSF-A (กองทุนหลัก) เพียงกองทุนเดียว ลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท  เสนอขายครั้งแรก (IPO) 8-17 พ.ย. 2564

นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาดและที่ปรึกษาการลงทุน บลจ. ทิสโก้ จำกัด

 

ช่วงที่ผ่านมา ลูกค้าให้ความสนใจกองทุน TSF-A เป็นอย่างมาก ดังนั้นเพื่อช่วยลูกค้าในการบริหารจัดการภาษีและเพิ่มทางเลือกให้นักลงทุนที่สนใจลงทุนหุ้นไทยมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่โดดเด่น ด้วยกองทุนคุณภาพ เพราะกองทุนหลักคือ เป็นกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนเชิงรุก (Active Fund) ที่ไม่มีข้อจำกัดเรื่องกลยุทธ์การลงทุน สามารถลงทุนได้ทั้งหุ้นขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก และปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์

“ผู้จัดการกองทุนจะคัดเลือกหุ้นด้วยวิธี Bottom Up บนพื้นฐานที่คำนึงถึงสถานการณ์เศรษฐกิจในภาพรวม จากนั้นจึงวิเคราะห์และคัดสรรจนเหลือหุ้นที่จะลงทุนเพียง 10-15 ตัว โดยจะเน้นลงทุนในหุ้นไทยที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มั่นคง และมีแนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจที่ดีเป็นหลัก พร้อมทั้งกระจายพอร์ตการลงทุนไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อลดความผันผวนของพอร์ตโดยรวม”นายสาห์รัชกล่าว  

 

ด้วยกลยุทธ์การลงทุนดังกล่าว จึงมั่นใจว่า กองทุน TSFRMF-A จะเป็นอีกหนึ่งกองทุนที่เป็นผู้นำในการเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่โดดเด่นในกลุ่มกองทุนหุ้นไทย

 

ทั้งนี้ข้อมูลจาก Morningstars ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 ระบุว่า กองทุน TSF-A ซึ่งเป็นกองทุนหลัก มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปี 5 ปี 7 ปี และ 10 ปี สูงเป็นอันดับที่ 1 ของประเภทกองทุนหุ้นไทย Equity Small/Mid-Cap  และยังได้รับการจัดอันดับ 5 ดาว จาก Morningstars ด้วย

 

นอกจากนั้น ช่วง 1 ปีที่ผ่านมาตามข้อมูลของ บลจ. ทิสโก้ ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 กองทุน TSF-A ซึ่งเป็นกองทุนหลัก สามารถทำผลตอบแทนได้ 57.31% มากกว่าดัชนี SET TRI ที่เป็นดัชนีชี้วัด (Benchmark) ที่ในช่วงเวลาเดียวกันมีอัตราผลตอบแทน 33.56%

 

ทั้วนี้กองทุน TSF-A สามารถเอาชนะดัชนีชี้วัดได้ 23.75%  และผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี 3 ปี 5 ปี 10 ปี และตั้งแต่จัดตั้งกองทุนถึงปัจจุบัน อยู่ที่ 5.62% 6.35% 57.31% ต่อปี 16.54% ต่อปี 16.75% ต่อปี 14.45% ต่อปี และ 12.81% ต่อปี

 

ขณะที่ในช่วงเวลาเดียวกันดัชนีชี้วัด SET TRI มีผลตอบแทนย้อนหลังอยู่ที่ 6.62% 14.88% 15.13% ต่อปี -3.48% ต่อปี 5.66% ต่อปี 7.78% ต่อปี และ 8.87% ต่อปี ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม ไม่ได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

 

“เรามองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสปรับขึ้น ตามตัวเลขเศรษฐกิจที่คาดว่าจะค่อยๆ ฟื้นตัว โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวสู่ภาวะปกติได้ในช่วงหลังของปี 2565 จากนโยบายการเงินที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ นโยบายการคลังที่ขยายเพดานหนี้สาธารณะเป็น 70% ต่อ GDP ช่วยเพิ่มความสามารถในการกู้เงินเพื่อนำมากระตุ้นเศรษฐกิจ"นายสาห์รัชกล่าว  

 

รวมถึงนโยบายกระตุ้นการบริโภคจากภาครัฐที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งประเทศไทยน่าจะได้รับผลกระทบจาก QE Tapering น้อยกว่าประเทศอื่น เนื่องจากปัจจุบันนักลงทุนต่างชาติถือครองหุ้นไทยในสัดส่วนที่ไม่มากเท่ากับในอดีต ตลาดหุ้นไทยจึงไม่น่ากังวลเรื่องเงินไหลออกเท่าใดนัก