ทิศทางค่าเงินบาทและดัชนีหุ้นไทย 22-26พ.ย.64

21 พ.ย. 2564 | 12:31 น.
อัปเดตล่าสุด :21 พ.ย. 2564 | 19:48 น.

กสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทระหว่างวันที่ 22-26พ.ย. 2564 ที่ระดับ 32.30-33.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ บล.กสิกรไทยคาดดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,640 และ 1,630 จุด

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยแนะติดตาม 4ปัจจัย “ตัวเลขการส่งออกของไทยเดือนต.ค. -ทิศทางเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติ -สถานการณ์โควิด-19 ปัจจัยต่างประเทศทั้งเศรษฐกิจสหรัฐ -การประชุมธนาคารกลางเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น  ยูโรโซน และดอกเบี้ย LPR เดือนพ.ย. ของจีน”

 

ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทระหว่างวันที่ 22-26พ.ย. 2564  ที่ระดับ 32.30-33.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขการส่งออกของไทยเดือนต.ค. ทิศทางเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติ และสถานการณ์โควิด-19

 

ทิศทางค่าเงินบาทและดัชนีหุ้นไทย 22-26พ.ย.64

 ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสอง ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ข้อมูลรายได้/การใช้จ่ายส่วนบุคคล และดัชนี PCE/Core PCE Price Index เดือนต.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย. จีดีพีไตรมาส 3/64 (ครั้งที่ 2) และรายงานการประชุมเฟด (2-3 พ.ย.) นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามการประชุมธนาคารกลางเกาหลีใต้ อัตราดอกเบี้ย LPR ของธนาคารกลางจีน รวมถึง PMI ของอังกฤษ ยูโรโซน และสหรัฐฯ เดือนพ.ย. (เบื้องต้น)  ทั้งนี้ เมื่อในวันศุกร์ (19 พ.ย.) เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ระดับ 32.74 เทียบกับระดับ 32.81 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (12 พ.ย.)

สำหรับบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด(บล.) มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,640 และ 1,630 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,665 และ 1,675 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขส่งออกเดือนต.ค.ของไทย สถานการณ์โควิด-19 ตลอดจนทิศทางเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่ ยอดขายบ้านมือสอง ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคล ดัชนี PCE/Core PCE Price Index เดือนต.ค. ข้อมูล PMI เดือนพ.ย. (เบื้องต้น) ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/64 และบันทึกการประชุมเฟด

 

 

ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ข้อมูล PMI เดือนพ.ย. (เบื้องต้น) ของญี่ปุ่นและยูโรโซน ตลอดจนการกำหนดอัตราดอกเบี้ย LPR เดือนพ.ย. ของจีน โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,645.06 จุด เพิ่มขึ้น 0.68% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 83,748.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.19% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 0.71% มาปิดที่ 562.07 จุด 

 

ทิศทางค่าเงินบาทและดัชนีหุ้นไทย 22-26พ.ย.64