นายณัฐกฤติ เหล่าทวีทรัพย์ ผู้อำนวยการอาวุโสที่ปรึกษาการลงทุนทิสโก้เวลธ์ ธนาคาร ทิสโก้ จำกัด(มหาชน)เปิดเผยว่า ธนาคารแนะนำให้นักลงทุน ‘ขาย’ หุ้นในกลุ่มวัฏจักรเศรษฐกิจ (Cyclical) ที่จะได้รับผลกระทบโดยตรงจากประเด็นดังกล่าว โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มพลังงาน กลุ่มธุรกิจการเงิน กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม และกลุ่มสายการบิน
หากไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ โอมิครอน ระบาดรุนแรง ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ประเมินว่า หุ้นทั่วโลกมีโอกาสปรับลงจากปัจจุบัน 15 - 20% เนื่องจากเศรษฐกิจจะได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์ เงินเฟ้อยังคงสูงจากปัญหาซัพพลายเชนและธนาคารกลางหมดกระสุนอัดฉีดเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ
“หุ้นที่ทิสโก้แนะนำให้ ‘ขาย’ คือ หุ้นกลุ่ม Cyclical ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจฟื้นตัวและราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นสูงกว่าจุดที่จะมีโควิด-19 ระบาดในปี 2563 ไปแล้ว หลังจากนี้ผลประกอบการหุ้นกลุ่มนี้จะเริ่มไม่แน่นอน นักลงทุนจะให้ความสำคัญลดลง และมีความเสี่ยงที่ราคาจะปรับตัวลดลง"นายณัฐกฤติกล่าว
ทั้งนี้นับตั้งแต่มีข่าวโอมิครอนระบาดจนถึงวันที่ 1 ธันวาคม ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานตัวลง 6.7% กลุ่มธุรกิจการเงินลดลง 6.3% กลุ่มอุตสาหกรรมลดลง 6.3% และกลุ่มสายการบินลดลง 12.3% ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงมากกว่าดัชนี S&P 500 ที่ปรับตัวลดลงเพียง 4.0%
ธนาคารทิสโก้แนะให้นักลงทุนอาศัยจังหวะที่หุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงทยอยสะสมหุ้นกลุ่มที่คาดว่า จะได้ประโยชน์จากการกลับมาแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ และเป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโต แม้เศรษฐกิจชะลอตัว คือ
1.หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่เป็นอนาคตของโลกได้แก่ Video Games และ Esports, Cybersecurity, Social Media และ Cloud Computing โดย Global X Asset Management คาดว่าช่วง 12 เดือนข้างหน้า ธุรกิจกลุ่มนี้จะมีรายได้เติบโต 26%, 23%, 21% และ 20% ตามลำดับ ในอนาคตยังมีโอกาสเติบโตอีกมากจากธุรกิจใหม่ที่จะเกิดขึ้นบนโลกเสมือนจริงใน Metaverse
นอกจากนั้น หากมองย้อนกลับไปช่วงแรกที่โควิด-19 ระบาด ในปี 2563 หุ้นกลุ่มนี้สามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างก้าวกระโดด สวนทางกับธุรกิจอื่นที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง โดยหุ้นกลุ่ม Video Games และ Esports สร้างผลตอบแทนได้สูงถึง 84.25% หุ้นกลุ่ม Cybersecurity สร้างผลตอบแทนได้ 71.17% หุ้นกลุ่ม Social Media สร้างผลตอบแทนได้ 75.11% และหุ้นกลุ่ม Cloud Computing สร้างผลตอบแทนได้ 77.08%
2. หุ้นกลุ่มนวัตกรรมการแพทย์ (Healthcare Innovation)คือ ธุรกิจไบโอเทคโนโลยี (Biotechnology)ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องตามค่าใช้จ่ายการในการดูแลสุขภาพและการรักษาพยาบาลที่มีแนวโน้มเติบโตสูงกว่าการเติบโตของเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐฯ เมื่อโควิด-19 กลายพันธุ์รุ่นใหม่
กลุ่มนี้ก็จะเป็นพระเอกที่ใช้นวัตกรรมทางชีวภาพใหม่อย่าง mRNA มาปรับเปลี่ยนสูตรวัคซีน เพื่อรับมือกับสายพันธุ์โอมิครอนได้อย่างรวดเร็ว และสร้างรายได้ให้บริษัทเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งปี 2563 ที่ผ่านมาหุ้นกลุ่มนี้ สามารถสร้างผลตอบแทนได้มากถึง 48.19%