THG ชี้ภาษีคริปโต ทำเงินทุน-คนเก่งไหลออกนอกประเทศ

26 ม.ค. 2565 | 10:46 น.
อัปเดตล่าสุด :26 ม.ค. 2565 | 18:00 น.

THG ตั้งเป้าเป็นinnovation company เร่งศึกษาลงทุนคริปโตในไทย ซัดภาษีคริปโตเป็นกำแพงฉุดรั้งการเติบโต ทำเงินทุน-คนเก่งหันลงทุนต่างประเทศ แนะรัฐทบทวนรูปแบบการเก็บภาษี ก่อน Crypto billionaire ย้ายประเทศ

นายตฤบดี อรุณานนท์ชัย ที่ปรึกษาด้านสินทรัพย์ดิจิทัล บริษัทธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยในงานสัมนา The BIG ISSUE 2022 “อนาคตคริปโต อนาคตไทยแลนด์”ว่า THG ในฐานะผู้ประกอบการมองว่าคริปโตเป็นเครื่องมือในตลาดทุนชนิดหนึ่งและบล็อกเชนเทคโนโลยีเป็นอินเทอร์เน็ตของข้อมูลธุรกรรมอย่างหนึ่ง 

 

หากมองว่าเงินสดคือตราสาร ดังนั้นATM หรือ digital bankก็คือโทรศัพท์ เทคโนโลยีบล็อกเชนก็คือมากกว่าโทรศัพท์ แน่นอนว่าคริปโตจำเป็นต้องเก็บภาษี แต่รูปแบบในการเก็บภาษีที่ออกมานั้นมีความเหมาะสมหรือไม่

“ในมุมของผู้ประกอบการที่เป็นบริษัทมหาชน ตอนนี้เรากำลังศึกษาคริปโตอยู่ แต่พอเกิดกฎหมายเรื่องภาษีนี้ขึ้นมาเราก็ต้องยิ่งศึกษามากขึ้น ทำให้การใช้ประโยชน์จากตลาดทุนอันนี้ก็ยากขึ้นอีก สิ่งที่น่าสนใจคือก่อนที่จะเกิดภาษีคริปโตนี้ มีคนสิงคโปร์ที่เป็นCrypto billionaire ย้ายมาประเทศไทยเยอะ เพราะคิดว่าค่าครองชีพที่นี่ถูกเป็นศูนย์กลางอินโดไชน่า และกฎหมายไทยมีความชัดเจน

 

ดังนั้นในช่วงแรกมีเงินแพร่สะพัดจากสินทรัพย์ดิจิตอลที่แพร่เข้ามาในประเทศไทยจำนวนมากจากชาวต่างชาติที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์จากสินทรัพย์ดิจิทัล แต่พอเกิดภาษีนี้ขึ้น สิ่งที่เราจะเจอหลังจากนี้คือเรื่องของเม็ดเงินที่ไหลออกไป” 

 

ในส่วนของผู้บริโภคเอง เดโมกราฟฟิกของคนเปลี่ยนคนรุ่นใหม่ปัจุบันไม่ได้มีงานประจำเพียงอย่างเดียว แต่มีอาชีพที่2 ที่เป็นงานออนไลน์ เช่นส่งแกรบ ขายของออนไลน์ และมีอาชีพที่ 3 ในยุคโควิดคือเข้าเทรด ในcryptocurrency

 

สิ่งที่เกิดขึ้นคือคนเหล่านี้ถือเงินในบัญชีคริปโตเยอะ เมื่อต้องการเข้ามาที่ THG เพื่อรักษาตัว แต่มีขั้นตอนในการนำเงินที่เป็นสินทรัพย์ดิจิตอลมาแปลงเป็นเงินสดก็จะเกิดความลำบากในการใช้จ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้ที่จะเกิดเรื่องภาษีคริปโต THGไ ด้ศึกษาช่องทางที่จะสามารถทำให้คนเหล่านี้นำสินทรัพย์ดิจิตอลมาแปลงเป็นเงินสดเพื่อตอบรับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ และนำมาเป็นช่องทางการชำระค่าบริการต่างๆภายในเครือTHG 

 

“คริปโต อาจถูกมองได้ทั้งในแง่มุมของการพนัน หรือมุมของผลิตภัณฑ์ทางการเงินก็ได้ เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้คนมีดอกเบี้ยหรือมีผลตอบแทนมากขึ้น แต่ปัญหาคือพอมีเรื่องของภาษีเข้ามาก็ยิ่งทำให้กลุ่มคนที่ต้องการเข้ามาลงทุนด้านนี้เพื่อเพิ่มรายได้ยิ่งไม่อยากทำและไปหาลู่ทางอื่นนอกประเทศแทน เพราะกรอบกฎหมายและรูปแบบที่จำกัดเกินไปทำให้มันก็ไม่เป็น innovation คนเก่งๆหันไปเปิดบริษัทเมืองนอก ไปดังที่เมืองนอก ทั้งที่ความจริงคนเหล่านี้อาจจะเป็นยูนิคอนของประเทศไทยก็ได้แต่กลายเป็นว่าเราไม่ได้สร้างเวทีให้ไทยเป็นศูนย์กลางของคนเหล่านี้

 

สุดท้ายจะไม่ใช่แค่คนที่ซื้อ-ขายคริปโตเท่านั้นแต่มันจะ impact และกระทบทุกคน ดังนั้นภาษีที่จะออกมาคงต้องใช้หลักการที่ว่ารอดูต่อไป เราเชื่อว่าทุกอย่างมีวิธีการของมัน สำคัญคือไทม์มิ่งต้องถูก  ในกลุ่มTHG เราศึกษาเทคโนโลยีนี้อยู่ตลอดและด้วยเนื่องจากเราเป็น innovation company เราอยากจะใช้ประโยชน์จากมันอย่างเต็มที่เพื่อลูกค้า เพื่อคนไข้ เพื่อหมอเรา เพื่อพาร์ทเนอร์ของเรา และเราก็มีความหวังว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนนี้จะช่วยให้เราสร้างประโยชน์ให้คนหมู่มากได้ และเราก็คิดว่ามันเป็นเทคโนโลยีที่มีประโยชน์จริงและอยากให้ทุกหน่วยงานทุกฝ่ายเปิดรับคริปโตเหมือนที่เปิดรับอินเทอร์เน็ต”