ผู้สื่อข่าวรายงานการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นกลุ่มขุดเหมือง หลังราคาหุ้น บมจ.จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น หรือ JTS ร่วงติดฟลอร์มาอยู่ที่ระดับ 221 บาท ลดลง 94 บาทหรือ -29.84% จากราคาปิดเมื่อวันที่ 22 ก.พ.65 ที่ระดับ 315.00 บาท และ ณ เวลา 15.47 น. มีมูลค่าซื้อขายอยู่ที่ 1,215.05 ล้านบาท
ซึ่งเป็นการปรับตัวลง ตามหลังหุ้นบมจ. ซิก้า อินโนเวชั่น ( ZIGA ) ที่ร่วงติดฟลอร์ 29.66% หรือลดลง 4.30 บาท มาที่ 10.20 บาท ตั้งแต่ช่วงเช้า โดยมูลค่าซื้อขายล่าสุดอยู่ที่ 885.49 ล้านบาท จากราคาปิดเมื่อวานที่ 14.50 บาท
ขณะที่หุ้นบมจ. ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย (UPA) ปรับลง 16.13% หรือลดลง 0.10 บาท มาที่ 0.52 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,345,20 ล้านบาท จากราคาปิดเมื่อวันที่ 22 ก.พ.65 อยู่ที่ 0.62 บาท
หุ้น บมจ. อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค ( ECF) ปรับลง 7.61% หรือลดลง 0.15 บาท มาที่ 1.82 บาท มูลค่าซื้อขาย 62.34 ล้านบาท จากราคาปิดเมื่อวันที่ 22 ก.พ.65 อยู่ที่ 1.97 บาท
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ราคาหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวกับการขุดเหมืองบิทคอยน์ปรับลดลงอย่างมากในวันนี้ ก่อนหน้าหุ้นกลุ่มนี้มีการเล่นเก็งกำไรไปมากแล้ว เนื่องมาจากราคาบิทคอยน์ในตลาดโลกปรับตัวลงมามากตอบรับสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนที่กังวลว่าอาจพัฒนาเป็นสงครามได้ ทำให้จุดคุ้มทุนในการดำเนินการยิ่งห่างออกไป จึงมองว่าธุรกิจไม่น่าสนใจทำให้ทั้งกลุ่มมีแรงเทขายของนักลงทุนเพื่อหนีตาย