นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า กระทรวงการคลังยังเดินหน้านโยบายเก็บภาษีจากการขายหุ้น หรือ Financial Transaction Tax โดยมีแผนจะเข้าจัดเก็บภายในปีนี้ หลังจากยกเว้นการจัดเก็บมานานกว่า 30 ปี ซึ่งขณะนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม เพราะตลาดหุ้นมีการเติบโตอย่างมาก ขณะเดียวกันแม้ในภาวะวิกฤต ตลาดก็ยังสามารถเติบโตได้ดี
“หลักการการจัดเก็บจะเป็นแบบกรอบเดิมตามที่กฎหมายกำหนด ไม่ต้องทำหลักเกณฑ์ใหม่ เรามีกฎหมายเดิมอยู่แล้ว เพียงแต่ที่ผ่านมาเรายกเว้นให้เพื่อสนับสนุนการเติบโตของตลาด
ถามว่า ตอนนี้ ตลาดหุ้นโตขึ้นหรือไม่ ก็ต้องตอบว่า โตขึ้น ขณะที่ ภาครัฐยังแบกรับภาระให้ ซึ่งการช่วยเหลือก็ต้องมีระยะเวลาที่แน่นอน เหมือนตอนที่เราส่งเสริมอุตสาหกรรมรถยนต์ เมื่อถึงเวลาที่เติบโต เขาก็ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล” นายอาคม กล่าว
นายอาคม กล่าวอีกว่า สำหรับรูปแบบการจัดเก็บภาษี จะเป็นภาษีการขาย ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกับในต่างประเทศ ขณะที่อัตราที่จัดเก็บตามกรอบกฎหมายเดิม ที่ 0.1% โดยจะจัดเก็บเป็นรายเดือน ซึ่งโบรกเกอร์จะเป็นผู้ส่งยอดมาให้กรมสรรพากรคาดในปีปฏิทิน 65 ที่จะเริ่มจัดเก็บภาษีดังกล่าวนั้น จะสามารถจัดเก็บภาษีการขายหุ้นได้ในหลักหมื่นล้านบาท
โดยก่อนการเริ่มจัดเก็บ กระทรวงการคลังจะมีการแจ้งให้ตลาดรับทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ช่วงที่มาผ่านกระทรวงการคลังได้มีการทำความเข้าใจกับตลาดหลักทรัพย์มาโดยตลอด ทั้งโบรกเกอร์ สภาตลาดทุนไทย เนื่องจากเป็นภาษีเดิม ไม่ใช่ภาษีตัวใหม่ ซึ่งตลาดก็มีความเข้าใจดี
“เราหารือกับตลาดมาตลอดเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งตอนแรกตลาดไม่รับเลย แต่ตอนหลังก็เข้าใจ เพราะถ้าโดนเก็บ Capital gain จะโดนหนักกว่านี้ หลักการเก็บจะยึดตามเดิม ถ้าเราแยกจะยุ่งยากเรื่องการบริหาร
เช่น ถ้าเราบอกว่า ถ้ายอดขายหุ้น 1 ล้านบาท เราจะเก็บในอัตราต่ำกว่าคนที่มียอดขายสูงกว่า 1 ล้าน ก็ยุ่งยาก ซึ่งในกฎหมายที่ออกมาจะเก็บแบบเท่าเทียมกัน คือ เก็บจากภาษีการขาย ไม่แยกว่า จะเป็นรายเล็กหรือรายน้อย ซึ่งง่ายสุด คือ เก็บเท่ากันหมด ประเทศต่างๆก็ไม่แยกแยะการขาย” นายอาคม กล่าว
นายอาคม กล่าวย้ำอีกว่า ปีนี้จะได้เห็นการจัดเก็บภาษีการซื้อขายหุ้น ตามหลักเกณฑ์เดิม แต่ทั้งนี้เนื่องจากที่ผ่านมามีการยกเว้น ดังนั้น กระทรวงการคลังจะต้องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่ออนุมัติออกเป็นกฎกระทรวงก่อน จึงจะมีผลบังคับใช้ได้
นอกจากนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยังได้เปิดเผยถึงแนวโน้มการจัดเก็บรายได้ในปีงบประมาณ 65 นั้น ไม่น่าจะมีปัญหา โดยกระทรวงการคลังได้เพิ่มเป้าหมายการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจเพิ่มอีก 5% ขณะเดียวกัน หลังกระทรวงการคลังกำหนดให้จัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มธุรกิจอีเซอร์วิสจากแพลทฟอร์มต่างประเทศ ขณะนี้ ก็มีรายได้เข้ามาเกินเป้าหมาย
ส่วนการจัดเก็บภาษีตัวใหม่อื่นๆนั้น เขากล่าวว่า ขณะนี้ กระทรวงการคลังยังไม่มีแผนที่จะจัดเก็บภาษีตัวใหม่ อย่างไรก็ดี ยังมีภาษีใหม่ที่อยู่ระหว่างการศึกษา เช่น ภาษีโซเดียม ซึ่งทางกรมสรรพสามิตอยู่ระหว่างหารือกับกระทรวงสาธารณสุข