นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ในปี 65 กรมธนารักษ์ได้เดินหน้าเปิดประมูลสรรหาผู้ลงทุนพัฒนาที่ดินราชพัสดุในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ 3 จังหวัด ได้แก่ ตาก มุกดาหาร และหนองคาย
ซึ่งจะเริ่มเปิดขายเอกสารการลงทุนได้ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค.-17 มิ.ย.65 และยื่นซองเสนอโครงการวันที่ 6 ก.ย.65 โดยหากมีผู้ประมูลเข้ามาครบถ้วน จะทำให้กรมฯ มีรายได้ค่าธรรมเนียมทันทีไม่ต่ำกว่า 327 ล้านบาท
โดยการประมูลครั้งนี้ได้ให้สิทธิประโยชน์เพื่อดึงดูดนักลงทุนเพิ่มเติมหลายส่วน อาทิ การยกเว้นเก็บค่าเช่ารายปีใน 2 ปีแรก แต่มีเงื่อนไขต้องเริ่มลงทุนภายในปี 66 รวมถึงยังเปิดให้ผ่อนชำระค่าธรรมเนียมการประมูล เป็นต้น
“กรมคาดหวังว่าในการเปิดประมูลครั้งนี้ จะสามารถดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาลงพัฒนาในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษได้จริง เพราะมีการให้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมหลายด้าน โดยหากมีผู้ประมูลเข้ามาครบถ้วน จะทำให้กรมฯ มีรายได้ค่าธรรมเนียมทันทีไม่ต่ำกว่า 327 ล้านบาท" นายประภาศ กล่าว
สำหรับคุณสมบัติของผู้เสนอการลงทุนจะต้องเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายไทย ทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท กรณีกิจการร่วมค้า เป็นการร่วมของธุรกิจที่มีมูลค่าทุนจดทะเบียนรวมกันไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท และมีผลงานหรือประสบการณ์ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างใดอย่างหนึ่ง อย่างน้อย 1 โครงการ
ขณะที่รายละเอียดการเปิดประมูลแต่ละพื้นที่มีดังนี้
-เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก บนที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ ตก.590 ตำบลท่าสายลวด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เนื้อที่ประมาณ 1,076 ไร่
โดยกำหนดการเรียกเก็บผลประโยชน์ตอบแทนเป็นค่าเช่าในอัตราไร่ละ 36,000 บาทต่อปี คิดเป็นค่าเช่าปีละ 38.75 ล้านบาท ปรับปรุงค่าเช่า 15% ทุก 5 ปี และกำหนดค่าธรรมเนียมการประมูลเป็นเงิน 269 ล้านบาท มีกำหนดระยะเวลา การเช่า 50 ปี
-เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษมุกดาหาร บนที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ มห.511 และ มห. 512 ตำบลคำอาฮวน อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร เนื้อที่ประมาณ 1,081 ไร่
กำหนดผลประโยชน์ ตอบแทนเป็นค่าเช่าในอัตราไร่ละ 1,800 บาทต่อปี คิดเป็นค่าเช่าปีละ 1.94 ล้านบาท ปรับปรุงค่าเช่า 9% ทุก 3 ปี และกำหนดค่าธรรมเนียมการประมูล เป็นเงิน 32.4 ล้านบาท กำหนดระยะเวลาการเช่า 50 ปี
-เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษหนองคาย บนที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ นค.1031 ตำบลสระใคร อำเภอสระใคร จังหวัดหนองคาย เนื้อที่ประมาณ 718 ไร่
กำหนดผลประโยชน์ ตอบแทนเป็นค่าเช่าในอัตรา ไร่ละ 2,100 บาทต่อปี คิดเป็นค่าเช่าปีละ 1.5 ล้านบาท ปรับปรุงค่าเช่าร้อยละ 9 ทุก 3 ปี และกำหนดค่าธรรมเนียมการประมูลเป็นเงิน 25.1 ล้านบาท มีกำหนดระยะเวลาการเช่า 50