บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) เผยแนวทางการดูแลผู้เอาประกันภัยในช่วงฟื้นฟูกิจการ พร้อมดูแลการรับประกันและจ่ายสินไหมสำหรับผู้เอาประกันประเภทอื่นที่ไม่ใช่โควิดต่อไปตามปกติ และอยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางและวิธีการชำระหนี้ที่เหมาะสมให้กับเจ้าหนี้สินไหมโควิด
ภายหลังจากที่ บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้กำหนดกรอบระยะเวลาประมาณการเพื่อฟื้นฟูกิจการและขั้นตอนกระบวนการฟื้นฟูกิจการตามกฎหมาย เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาสินไหมโควิดและสร้างความมั่นใจในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ต่อไปนั้น
บริษัทฯ ได้มีการหารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ. ถึงแนวทางการดูแลผู้เอาประกันในช่วงฟื้นฟูกิจการ และยืนยันว่าบริษัทฯ จะรับผิดชอบดูแลการรับประกันและจ่ายสินไหม
สำหรับผู้เอาประกันประเภทอื่นที่ไม่ใช่โควิดต่อไป พร้อมทั้งให้ความคุ้มครองและสิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยตามปกติ รวมถึงต้องรักษาคุณภาพ ความสะดวกรวดเร็ว ในการให้บริการดังเดิม
ในขณะที่การฟื้นฟูกิจการจะเปิดโอกาสให้บริษัทฯ และผู้เอาประกันภัยที่ติดเชื้อโควิดได้เจรจาร่วมกัน เพื่อหาแนวทางในการชำระหนี้ที่เหมาะสมและเป็นแนวทางที่ยอมรับได้ของทุกฝ่าย
ส่วนแนวทางและวิธีการชำระที่เหมาะสมให้เจ้าหนี้สินไหมโควิดนั้น บริษัทฯ อยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางและวิธีการชำระหนี้ที่เหมาะสมและเป็นไปได้ให้กับเจ้าหนี้สินไหมโควิด
โดยในเบื้องต้น คือ การจัดหาแหล่งเงินทุนจากผู้ร่วมทุน เพื่อนำมาชำระให้กับเจ้าหนี้สินไหมโควิด และ/หรือ การแปลงหนี้สินไหมโควิดเป็นทุน และ/หรือ การผ่อนชำระหนี้ ทั้งนี้ ความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัทฯ จะขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานที่ดีต่อไปในอนาคต ซึ่งจะเพิ่มโอกาสความสำเร็จของแนวทางการชำระหนี้ในทุกแนวทาง
ทั้งแนวทางการแปลงหนี้เป็นทุน การเพิ่มทุนจากนักลงทุน การผ่อนชำระหนี้โควิด หรือแนวทางผสมผสานของทั้ง 3 แนวทาง โดยบริษัทฯ มีความมั่นใจว่าจะสามารถบริหารจัดการให้มีผลดำเนินงานที่ดีต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง
เนื่องจากธุรกิจหลักที่เป็นนอนโควิด (Non Covid) เช่น ประกันรถยนต์และนอนมอเตอร์ยังคงมีฐานที่แข็งแกร่ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นได้จากผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ปี 2565 มีผลกำไรอยู่ที่ 292.42 ล้านบาท
นอกเหนือจากนี้ปัจจัยความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการครั้งนี้ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของทุกฝ่าย อันประกอบด้วย บริษัทฯ สินมั่นคงประกันภัย เจ้าหนี้สินไหมโควิด นักลงทุน และสำนักงาน คปภ.