“สคบ.”ลบภาพเสือกระดาษ ลุยฟ้องแพ่งเรียกคืนค่าเสียหาย

01 ก.ค. 2565 | 03:10 น.
อัปเดตล่าสุด :01 ก.ค. 2565 | 10:11 น.

สคบ.เผยนโยบายเร่งด่วนปี 65 จ่อออกประกาศคุ้มครองประชาชน ผ่านช้อปออนไลน์โฆษณาเท็จ-เกินจริงในโซเชียล-บูรณาการระหว่างหน่วยงานพร้อมยกระดับความเข้มแข็งให้องค์กรปกครองท้องถิ่นตามแผนกระจายอำนาจ

เสือกระดาษ” คือ ภาพจำสำหรับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคหรือ สคบ. แต่วันนี้สคบ.ออกมาลบภาพเสือกระดาษ ด้วยการประกาศช่วยเหลือผู้บริโภคดำเนินฟ้องคดีทางแพ่ง เพื่อเรียกคืนค่าเสียหาย หากเป็นความต้องการของผู้บริโภคเอง

 

นายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ เลขาธิการ สคบ.เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า งานคุ้มครองผู้บริโภคมีความหลากหลายและเกี่ยวเนื่องกับหลายหน่วยงาน ที่เกี่ยวกับ สคบ.จะเป็นการรับเรื่องราวร้องทุกข์จากผู้บริโภคที่ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายจากการกระทำของผู้ประกอบการใน 4 ด้านคือ ด้านโฆษณา ด้านฉลาก ด้านสัญญาและด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง ซึ่งนอกจากรับเรื่องร้องทุกข์ พร้อมไกล่เกลี่ยแล้ว หากเป็นความประสงค์ของผู้บริโภคให้ดำเนินฟ้องคดีทางแพ่ง เพื่อเรียกคืนค่าเสียหาย สคบ.ก็พร้อมดำเนินการ

“สคบ.”ลบภาพเสือกระดาษ ลุยฟ้องแพ่งเรียกคืนค่าเสียหาย

สำหรับนโยบายเร่งด่วนในปีงบประมาณ 2565 สคบ.อยู่ระหว่างจัดอบรมสัมมนาให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เพื่อเตรียมความพร้อมอปท.ให้มีความเข้มแข็งในการดูแลและคุ้มครองประชาชนตามแผนกระจายอำนาจ ขณะเดียวกันสคบ.ซึ่งเป็นส่วนกลางจะเร่งออกประกาศหรือโฆษณาที่จะมีคณะกรรมการเฉพาะทั้ง 4 ด้านในการคุ้มครองผู้บริโภค โดยเฉพาะคณะกรรมการขายตรงดูแลเรื่องขายตรงและการซื้อขายออนไลน์

 

“แนวโน้มประชาชนซื้อสินค้าหรือบริการผ่านออนไลน์มากขึ้น จึงเป็นประเด็นเร่งด่วนหลายเรื่องที่ต้องบูรณาการระหว่างหน่วยงานกัน เพราะปัญหาการค้าขายผ่านบริการออนไลน์เป็นปัญหาเพิ่มขึ้น ไม่ว่าโฆษณาเท็จ โฆษณาเกินจริงในโซเชียล ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญมอบหมายเป็นนโยบายเร่งด่วน”นายธสรณ์อัฑฒ์กล่าว

ส่วนเรื่องราวร้องทุกข์ ขณะนี้มีการร้องเรียนเพิ่มเข้ามาคือ ร้านดารุมะซูซิ กรณีซื้อคูปองทิพย์แล้วไม่สามารถเข้าไปใช้บริการ โดยมีผู้ร้องเรียนเบื้องต้นมากกว่า 1,000 ราย ถ้าผู้บริโภคมีความประสงค์ให้สคบ.ดำเนินฟ้องคดีทางแพ่ง ก็สามารถดำเนินการได้ และถ้ามีการฉ้อโกงก็จะประสานกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ตามความประสงค์ของผู้บริโภค

 

สำหรับสถิติการร้องเรียน ส่วนใหญ่อยู่ในหมวด “สินค้าและบริการ” ซึ่งครอบคลุมหลายประเภท โดยปีงบประมาณ 2565 ล่าสุด ณ 24 มิถุนายน 2565 พบว่าสคบ.รับเรื่องร้องทุกข์รวม 10,291 เรื่องแยกตาม 3 ประเภทหลักได้แก่ บริการมี 4,743 เรื่องจากปี 2564 ทั้งปี 9,271 เรื่อง รองลงมาเป็นเรื่องเกี่ยวกับสินค้า 4,476 เรื่องจากทั้งปีที่แล้วมี 11,157 เรื่องและอสังหาริมทรัพย์ 1,272 เรื่องจากปี 2564 ทั้งปี 3,596 เรื่อง ซึ่งการร้องทุกข์มีแนวโน้มปรับลดลงจากทั้งปีก่อนที่มี 24,024 เรื่อง

“สคบ.”ลบภาพเสือกระดาษ ลุยฟ้องแพ่งเรียกคืนค่าเสียหาย

ทั้งนี้ข้อมูลร้องทุกข์ 5 อันดับแรกของแต่ละประเภทในปี 2565 พบว่า หมวดบริการมีการร้องเรียนร้านอาหาร ผู้ประกอบการใหม่ จองตั๋วสายการบิน ประกันภัย และคลินิก/สถาบันเสริมความงาม สำหรับหมวดสินค้า แบ่งเป็นสินค้าและบริการ, รถยนต์ สินค้าบริโภค เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม และเครื่องใช้ไฟฟ้า และอสังหาริมทรัพย์แบ่งเป็นการร้องทุกข์อาคารชุด/คอนโดมิเนียม อพาร์ตเม้นต์/หอพัก/ห้องเช่า, ว่าจ้างก่อสร้าง, บ้านจัดสรร(บ้านเดี่ยว) และทาวน์โฮม

 

ขั้นตอนของ สคบ. เมื่อรับเรื่องร้องเรียน หากประสงค์ให้สคบ.ช่วยดำเนินการไกล่เกลี่ย ในเบื้องต้นจะมีชั้นคณะอนุกรรมการไกล่เกลี่ยซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญแต่ละด้าน โดยที่ผ่านมาสามารถไกล่เกลี่ยสำเร็จ 60% อีก 40% ส่วนใหญ่ผู้บริโภคให้ทางสคบ.ฟ้องคดีทางแพ่งเพื่อชดเชยความเสียหาย ซึ่งระยะเวลาดำเนินการจะเร็วหรือช้าขึ้นอยู่การนำส่งพยานหลักฐานของผู้บริโภค

 

ที่สำคัญ สคบ. จะมีกฎหมายเกี่ยวข้องกันหลายฉบับ แต่ละฉบับสคบ. จะมีบทบาทเฉพาะด้านเช่น ด้านสัญญา ด้านฉลาก ด้านโฆษณาและการค้าขายผ่านออนไลน์ เหล่านี้มีหลายเรื่องต้องบูรณาการกันเช่น ธปท. สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ดีเอสไอ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) อย่างด้านโฆษณาคณะกรรมการศึกษาเตรียมจะออกกฎหมายลูก เพื่อดูแลผู้บริโภคให้ครอบคลุม เพราะมีโฆษณาเกี่ยวกับความศักดิ์สิทธิ์หรือความขลังด้วย

 

หน้า 1 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,795 วันที่ 26 - 29 มิถุนายน พ.ศ. 2565