นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีค่าเงินบาทอ่อนค่าแตะ 36 บาทต่อดอลลาร์ฯ ว่า สาเหตุของการอ่อนค่าของเงินบาทเกิดจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะปัจจัยภายนอก จากการที่ค่าเงินดอลลาร์ฯ และค่าเงินหยวนซึ่งแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามขณะนี้ ธปท. ในฐานะผู้ดูแล ได้มีการติดตามสถานการณ์ค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิดแล้ว
ส่วนประเด็นเงินทุนไหลออก หลังธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายนั้น อาจทำให้มีเงินทุนไหลออกนอกประเทศบ้าง แต่ในตลาดตราสารหนี้ของไทยถือว่าไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติ ยังเชื่อมั่นในตลาดตราสารหนี้ของไทย ซึ่งเรื่องนี้เป็นไปตามภาวะตลาดทุนโลก
นายอาคม ยังกล่าวถึงตัวเลขเงินเฟ้อของไทย ที่พุ่งสูงถึง 7.66% สูงสุดในรอบ 13 ปีนั้น หากเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้ว ตัวเลขเงินเฟ้อของไทยยังถือว่าอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งเรื่องนี้ รัฐบาลได้ออกมาตรการมาดูแลเฉพาะกลุ่มแล้ว ทั้งเรื่องของราคาสินค้า และพลังงาน ทั้งนี้ยังเตรียมหารือร่วมกับกระทรวงพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการหามาตรการช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มเพิ่ม
ส่วนการขยายอายุมาตรการลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ที่จะครบกำหนดในวันที่ 20 ก.ค.นี้นั้น ขณะนี้ยังมีเวลาพิจารณา โดยราคาน้ำมันโลกขณะนี้ก็มีทั้งสูงขึ้นและลดลง ซึ่งราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ลดลงถึง 10 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
แต่ในส่วนของไทยราคาน้ำมันจะยังไม่ลง เพราะใช้ราคาอ้างอิงจากราคาน้ำมันดิบดูไบ ขณะเดียวกันต้องดูอีกหลายปัจจัย เช่น ต้องดูภาระของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงด้วย