เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ตามคาด สู่ระดับ 3.00-3.25%

21 ก.ย. 2565 | 22:23 น.
อัปเดตล่าสุด :22 ก.ย. 2565 | 05:55 น.

เฟดประกาศขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้น 0.75% สู่ระดับ 3.00-3.25% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2551 ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ ยังส่งสัญญาณว่าจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปจนแตะระดับ 4.4% ในช่วงสิ้นปีนี้ และ 4.6% ในปีหน้า (2566)

 

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับ ขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.75% สู่ระดับ 3.00-3.25% ในการประชุมวานนี้ (21 ก.ย.) ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้

 

ทั้งนี้ เฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน ซึ่งถือเป็นการดำเนินการที่เข้มงวดที่สุดของเฟด นับตั้งแต่ที่เฟดกำหนดให้อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเป็นเครื่องมือสำคัญด้านนโยบายการเงินในปี 2533 ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดในขณะนี้อยู่ที่ระดับ 3.00-3.25% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2551

 

นอกจากนี้ เฟดส่งสัญญาณว่าจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปจนแตะระดับ 4.6% ในปี 2566

 

ในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดคาดว่าจะไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงปี 2567 โดยคาดว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีดังกล่าว และ 4 ครั้งในปี 2568 ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยระยะยาวปรับตัวลงสู่ระดับ 2.9%

 

เจ้าหน้าที่เฟดคาดการณ์ว่า อัตราดอกเบี้ยจะแตะระดับ 4.4% ในช่วงสิ้นปีนี้ และแตะ 4.6% ในสิ้นปี 2566 ก่อนที่จะชะลอตัวลงสู่ระดับ 3.9% ในปี 2567 และทรงตัวที่ 3.9% ในปี 2568 ขณะที่อัตราดอกเบี้ยระยะยาวอยู่ที่ 2.5%

อาคารธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในกรุงวอชิงตัน ดีซี

คาดการณ์เกี่ยวกับเงินเฟ้อ-การว่างงาน-จีดีพี

  • เงินเฟ้อ

เฟดคาดว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะแตะระดับ 4.5% ในสิ้นปีนี้ (2565) และจะชะลอตัวสู่ระดับ 3.1%, 2.3% และ 2.1% ในปี 2566, 2567 และ 2568 ตามลำดับ

 

  • อัตราว่างงาน

นอกจากนี้ เฟดคาดว่า อัตราว่างงานจะแตะระดับ 3.8% ในสิ้นปีนี้ และเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.4% ทั้งในปี 2566 และ 2567 ก่อนที่จะชะลอตัวลงสู่ระดับ 4.3% ในปี 2568 ขณะที่อัตราว่างงานระยะยาวอยู่ที่ 4.0%

 

  • จีดีพี

ขณะเดียวกัน เฟดคาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะมีการขยายตัวเพียง 0.2% ในสิ้นปีนี้ และดีดตัวสู่ระดับ 1.2% ในปี 2566

 

ไทม์ไลน์การขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในปี 2565

ตั้งแต่ต้นปีมา เฟดได้ "คง" และ "ขึ้น" อัตราดอกเบี้ย ดังนี้ 

วันที่ 25-26 ม.ค.  คงดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25%

วันที่ 15-16 มี.ค.  ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ 0.25-0.50%

วันที่ 3-4 พ.ค.     ขึ้นดอกเบี้ย 0.50% สู่ 0.75-1.00%

วันที่ 14-15 มิ.ย.  ขึ้นดอกเบี้ย 0.75% สู่ 1.50-1.75%

วันที่ 26-27 ก.ค.  ขึ้นดอกเบี้ย 0.75% สู่ 2.25-2.50%

วันที่ 20-21 ก.ย.  ขึ้นดอกเบี้ย 0.75% สู่ 3.00-3.25%

 

ส่วนการประชุม 2 ครั้งที่เหลือของปี 2565 มีกำหนดวันที่ ดังนี้ 

  • 1-2 พ.ย.      
  • 13-14 ธ.ค.