นายกสมาคมประกันชีวิตไทยประเมินเบี้ยประกันชีวิตรับรวมสิ้นปี 2565 มีโอกาสเติบโต 2% หวัง 2เดือนโค้งท้ายรับอานิสงก์ประกันสะสมทรัพย์และประกันสุขภาพหนุน
นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ MTL ในฐานะนายกสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมเบี้ยประกันชีวิตทั้งอุตสาหกรรมประกันชีวิตงวด 9เดือนของปีนี้ โดยระบุว่า สำหรับ 9เดือนปีนี้สมาคมฯคาดการณ์เบี้ยรับรวมทั้งอุตสาหกรรมประกันชีวิตติดลบน้อยกว่า 1% สิ้นปีนี้โอกาสจะเติบโต 0-2% โดยมีโอกาสเติบโต 2%แต่ไม่น่าจะเกิน 3%
ปัจจัยหนุนมาจากบริษัทประกันชีวิตเร่งทำยอดขายใน 2เดือนสุดท้าย และช่วงปลายปีจะเป็นCycle ของฤดูกาลขายของบริษัทประกัน ประกอบกับแนวโน้มอัตราผลตอบแทนหรือYield Curveที่ปรับเพิ่มขึ้นจากอัตราเงินเฟ้อเอื้อให้บริษัทประกันเสนอขายกรมธรรม์สะสมทรัพย์มากขึ้นกว่าเดิม
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา 6-7ปีบริษัทประกันชีวิตได้ชะลอการขายกรมธรรม์สะสมทรัพย์มานาน เพราะ Yield Curveที่เป็นขาลง นอกจากนี้แนวโน้มเบี้ยรับประกันสุขภาพเติบโตประมาณ 8% เพราะคนไทยหันมาให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพและบริษัทประกันชีวิตหันมาทำตลาดสุขภาพมากขึ้นด้วย
ส่วนแบบประกันชีวิตควบการลงทุน (ยูนิตลิงค์)นั้น ยอมรับว่ายอดขายถดถอยลดลง สาเหตุจากความผันผวนของการลงทุนตั้งแต่ปลายปีก่อนและเริ่มต้นปีนี้ตลาดยังคงผันผวนต่อเนื่อง ขณะเดียวกันบริษัทประกันชีวิตเริ่มขายยูนิตลิงค์แบบจ่ายเบี้ยรายงวด ไม่ใช่เป็นจ่ายเบี้ยครั้งเดียว ทำให้เบี้ยรับยังน้อย แต่แนวโน้มอัตราการต่ออายุจะมากขึ้น
ล่าสุด เมืองไทยประกันชีวิตจับมือ 8พันธมิตรได้เปิดตัวกลยุทธ์ “SILVER Readiness by MTL” เน้นการตอบโจทย์ที่หลากหลายรอบด้านเพื่อการดูแลกลุ่มผู้สูงอายุยุคใหม่ (Silver Age) ให้มีความสุขและใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ ด้วยการช่วยสร้างความอุ่นใจและเติมเต็มชีวิตสมาร์ทของวัยซิลเวอร์อย่างครบถ้วน
ทั้งในด้านผลิตภัณฑ์ บริการ นวัตกรรม และเครือข่ายพันธมิตรที่ครอบคลุมทุกรูปแบบการใช้ชีวิตที่สามารถดูแลลูกค้าครบวงจร พร้อมสร้างประสบการณ์แห่งความสุขและรอยยิ้มบนโลกสังคมใหม่ได้อย่างเข้าใจ เข้าถึงทุกไลฟ์สไตล์ของผู้สูงอายุยุคใหม่
ทั้งนี้ บริษัท ฯ ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและความคุ้มครองสุขภาพ ที่สามารถตอบโจทย์และช่วยขจัดความกังวลของผู้สูงวัยขึ้นมาโดยเฉพาะ ได้แก่ “โครงการสมาร์ท ซิลเวอร์” และ “โครงการสมาร์ท ซิลเวอร์ พลัส”
ซึ่งโดดเด่นด้วยการเลือกความคุ้มครองได้ตรงใจ กังวลโรคไหนก็เลือกให้อุ่นใจได้ ไม่ว่าจะเป็นความคุ้มครองโรคสมองเสื่อม ชนิดอัลไซเมอร์และโรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน รวมถึงคุ้มครองกรณีเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บ จนไม่สามารถปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้ด้วยตนเองอย่างถาวรตั้งแต่ 3 ใน 6 อย่าง ต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 180 วัน
ประกอบด้วย 1.การเคลื่อนย้าย 2.การเดินหรือเคลื่อนที่ 3.การแต่งกาย 4.การอาบน้ำชำระร่างกาย 5.การรับประทานอาหาร และ 6.การขับถ่าย อีกทั้งยังให้ความคุ้มครองกรณีกระดูกแตกหัก
โดยสามารถเลือกรับผลประโยชน์เป็นเงินก้อน หรือรายเดือน
(1) และสามารถระบุผู้รับประโยชน์เป็นสถานให้บริการผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง หรือโรงพยาบาลผู้สูงอายุ (Nursing Home) ที่มีรายชื่อร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัทฯ
(2) ซึ่งมีมาตรฐานตามกฎกระทรวงสาธารณสุขกำหนด ทั้งมาตรฐานด้านสถานที่ มาตรฐานด้านความปลอดภัย และมาตรฐานด้านการให้บริการ สมัครได้ตั้งแต่อายุ 40-80 ปี พร้อมให้ความคุ้มครองดูแลยาวถึงอายุ 81 ปี
นอกจากนี้ หากต้องการวางแผนให้มีเงินใช้สบาย ๆ หลังเกษียณ ด้วยประกันบำนาญที่มีหลายแบบประกันให้เลือกได้ตามใจ การันตีมีบำนาญใช้ทุกปี สามารถเลือกรับบำนาญเป็นรายปี หรือรายเดือน และเลือกจ่ายผลประโยชน์เข้า Nursing Home(2) ได้ ซึ่งจะช่วยคลายความกังวล สร้างความอุ่นใจ และแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลให้กับวัยซิลเวอร์ได้เป็นอย่างดี
ปัจจุบันทางบริษัท ฯ ได้จับมือกับ Nursing Home ชั้นนำของประเทศ เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าคนสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น เดอะซีเนียร์ โรงพยาบาลกายภาพบำบัด เดอะซีเนียร์ รัชโยธิน เดอะซีเนียร์ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิง
ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุฮันโนะ-เวชพงศ์ ศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพและดูแลผู้สูงอายุศิริอรุณเวลเนสเซ็นเตอร์ ศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพและดูแลผู้สูงอายุศิริอรุณแคร์ ศูนย์ส่งเสริมและฟื้นฟูผู้สูงวัย เดอะซีนิเซ่นส์ โรงพยาบาลผู้สูงอายุเฌ้อสเซอรี่โฮม ศูนย์ส่งเสริมและฟื้นฟูผู้สูงวัย เฌ้อสเซอรี่โฮม พรีเมี่ยมซีเนียร์แคร์ ศูนย์ส่งเสริมและฟื้นฟูผู้สูงวัย เฌ้อสเซอรี่โฮม ซีเนียร์แคร์ บางบอนเฮลท์ แอท โฮม แคร์เซ็นเตอร์ และ
ViMUT Wellness บางนา-วงแหวน ศูนย์ฟื้นฟูและดูแลสุขภาพสำหรับครอบครัวและผู้สูงอายุ รวมทั้งยังเตรียมที่จะขยายความร่วมมือไปยัง Nursing Home Network ในพื้นที่ต่าง ๆ ให้ครอบคลุมมากขึ้น
นายสาระ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อให้ลูกค้าในกลุ่ม Silver Age ได้สัมผัสกับประสบการณ์แห่งความสุขที่ครบวงจรมากขึ้น และได้เข้าถึงบริการและนวัตกรรมใหม่ ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง ทางเมืองไทยประกันชีวิต ยังเดินหน้าเชื่อมต่อกับเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจในด้านต่าง ๆ เพื่อขยายการให้บริการที่มากยิ่งขึ้น
รวมถึงการผนึกกำลัง กับบริษัท ฟูเชียเวนเจอร์แคปิทัล จำกัด (Fuchsia VC) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มของเมืองไทยกรุ๊ปโฮลดิ้ง ที่จะเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งในส่วนของการช่วยแสวงหาและลงทุนในสตาร์ทอัพ ที่มีเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์
และการบริการสำหรับผู้สูงอายุ และมีขอบข่ายการลงทุนทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยการลงทุนมุ่งเน้น ด้าน Healthtech Biotech และ Livingtech ที่สามารถช่วยให้ผู้สูงอายุ มีสุขภาพและคุณภาพชีวิต ยั่งยืนมากยิ่งขึ้น