การเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐอเมริกา มีขึ้นวานนี้ (8 พ.ย.) แม้ผลการนับคะแนนยังไม่ออกมาและอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์ แต่ก็มีผลสำรวจหลายสำนักออกมาชี้ไปในทิศทางว่านี่อาจเป็นการพลิกเกม โดย “รีพับลิกัน” อาจกลับมากุมเสียงข้างมากในสภา อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลานี้ มีการวิเคราะห์ของ โกลด์แมน แซคส์ ที่ออกมาว่า ในการทางกลับกัน หากชัยชนะเป็นของฝ่าย “เดโมแครต” ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล เรื่องนี้อาจไม่ดีนักสำหรับ ตลาดหุ้น
นายแจน แฮตซิอุซ หัวหน้านักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ ระบุในรายงานว่า "หากพรรคเดโมแครตสร้างเซอร์ไพรส์โดยคว้าชัยชนะทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ก็จะสร้างแรงกดดันต่อตลาดหุ้น เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่า รัฐบาลจะผลักดันการเพิ่มอัตราภาษีต่อภาคธุรกิจต่อไป"
นอกจากนี้ รายงานยังระบุด้วยว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้ง เนื่องจากประธานาธิบดีโจ ไบเดนจะผลักดันมาตรการใช้จ่ายของรัฐบาล ซึ่งจะทำให้เฟดคุมเข้มนโยบายการเงินเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
อย่างไรก็ดี ในทางกลับกัน คาดว่าตลาดหุ้นจะปรับตัวขึ้น หากพรรครีพับลิกันชนะการเลือกตั้ง แต่ตลาดจะปรับตัวขึ้นไม่มาก เนื่องจากราคาหุ้นได้สะท้อนคาดการณ์ดังกล่าวแล้ว
"ตลาดจะมีปฏิกริยาไม่มากนักต่อชัยชนะของพรรครีพับลิกัน เนื่องจากได้ปรับตัวรับคาดการณ์ชัยชนะในสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว ส่วนผลการเลือกตั้งในวุฒิสภาจะไม่สร้างความแตกต่างต่อนโยบายมากเท่ากับชัยชนะในสภาผู้แทนราษฎร" รายงานของโกลด์แมน แซคส์ ระบุ