นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) และในฐานะประธานสมาคมธนาคารไทยเปิดเผยว่า ธนาคารเกรุงไทยเตรียมจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก และ เงินกู้ภายในสัปดาห์นี้ เพื่อเป็นไปตามกลไกตลาด
พร้อมย้ำว่า ธนาคารยังคงให้ความสำคัญกลุ่มเปราะบาง ซึ่งจากฐานข้อมูลเครดิตบูโรจะมีสัดส่วน 70%เป็นฐานลูกค้า สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ (SFIs) ที่เหลือ 30%เป็นลูกค้าเกี่ยวกับธนาคารพาณิชย์แต่ละธนาคารจะมีฐานลูกค้า หรืออุตสาหกรรมกลุ่มเป้าหมายไม่เหมือน
โดยทุกธนาคารจะปรับอัตราดอกเบี้ยทั้งระบบในทิศทางเดียวกัน แต่อัตราการปรับนั้นขึ้นอยู่กับโครงสร้าง ฐานเงินฝากและฐานเงินกู้ อาจจะไม่เหมือนกันของ กลุ่มเป้าหมาย แต่ละธนาคารจะปรับตามบริบทแต่ในแง่ของต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
"การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์นั้น ปรับขึ้นช้ากว่าดอกเบี้ยนโยบาย ตั้งแต่ต้น ดอกเบี้ยนโยบายก็ปรับขึ้นช้ากว่าอัตราดอกเบี้ยโลกหรืออัตราดอกเบี้ยของภูมิภาค ฉะนั้นการประคองของSmooth Take off ก็เกิดผลในเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เรา
เห็นความมั่นใจของผู้ประกอบการ และเศรษฐกิจทุกภูมิภาคที่ดีขึ้น ในแง่การดำเนินนโยบายสู่ภาวะปกติภาคธนาคารก็ต้องดำเนินการแต่ขอย้ำว่า ธนาคารยังให้ความสำคัญกับกลุ่มเปราะบาง"
อย่างไรก็ตาม การที่ทั้งระบบธนาคารต้องกลับไปนำส่งเงินกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน(FIDF) แม้จะยกเลิกอัตราที่เคยปรับลดลงเหลือ 0.23% กลับไปเป็นอัตราเดิมที่ 0.46%
ส่วนต่างแค่ 0.23% แต่ผลกระทบต่อดอกเบี้ยที่ปรับขึ้น ต้นทุนที่แท้จริงจะอยู่ในช่วง 0.4-0.6% ขึ้นอยู่กับ portfolio เพราะขึ้นอยู่กับโครงสร้างทั้ง ฐานเงินฝากและฐานเงินกู้ที่เป็นเงินบาท ทั้งหมดของระบบ
ที่ผ่านมาธนาคารจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย MOR ,MRR ซึ่งเป็นกลุ่มรายย่อย ผู้ประกอบการรายเล็ก หรือหนี้ครัวเรือน แต่ไปเน้นกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ที่มีศักยภาพก่อนที่จะรับภาระในเรื่องของต้นทุนที่สูงขึ้น ในเชิงระบบอั้นไม่อยู่ ได้แต่ชะลอ ขณะที่ตอนนี้จะทยอยขึ้น