กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3/2566 ในวันนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 4.9% ในไตรมาสดังกล่าว สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 4.7% หลังจากมีการขยายตัว 2.0% และ 2.1% ในไตรมาส 1 และ 2 ตามลำดับ
การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 3 ได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค, การเพิ่มขึ้นของสินค้าคงคลัง, การส่งออก, การลงทุนของภาคเอกชน และการใช้จ่ายของรัฐบาล โดยการใช้จ่ายของผู้บริโภคพุ่งขึ้น 4% ในไตรมาส 3 หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 0.8% ในไตรมาส 2 ส่วนการลงทุนของภาคเอกชนพุ่งขึ้น 8.4% และการใช้จ่ายของรัฐบาลเพิ่มขึ้น 4.6%
เศรษฐกิจสหรัฐที่ขยายตัวได้ดีส่งผลให้เงินดอลลาร์แข็งค่าเทียบสกุลเงินหลัก เป็นปัจจัยหนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) นอกจากนี้ ดอลลาร์ได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
ณ เวลา 19.59 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.1% สู่ระดับ 106.64 ขณะที่ดอลลาร์แข็งค่า 0.08% สู่ระดับ 1.055 เทียบยูโร และปรับตัวลง 0.02% สู่ระดับ 150.18 เยน
ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พลิกดีดตัวสู่แดนบวก ขณะที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3/2566 ที่แข็งแกร่ง
ณ เวลา 20.06 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 23 จุด หรือ 0.07% สู่ระดับ 33,167 จุด หลังร่วงลงกว่า 100 จุด ก่อนการเปิดเผยตัวเลข GDP