ล่าสุดทาง FedWatch Tool ของ CME Group ออกผลบ่งชี้ว่า นักลงทุนได้ให้น้ำหนักถึง 25.6% ที่ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ "เฟด" จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.50-5.75% ในการประชุมเดือน พ.ย. 66 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ให้น้ำหนักการปรับขึ้นเพียง 20.1%
นอกจากนี้นักลงทุนให้น้ำหนักถึง 38.8% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.50-5.75% ในการประชุมเดือน ธ.ค. 66 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ให้น้ำหนักเพียง 29.8%
อย่างไรก็ตามนักลงทุนเพิ่มน้ำหนักในการคาดการณ์ เฟด อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนสิ้นปี 2566 โดยอาจเกิดขึ้นในการประชุม 2 ครั้งที่เหลือ ทั้งในเดือน พ.ย. และ ธ.ค. ของปีนี้ มาจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐออกมายังแข็งแกร่ง
ทั้งนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 336,000 ตำแหน่ง ในเดือน ก.ย. โดยออกมาสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 170,000 ตำแหน่ง
ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 3.8% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.7% และตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 4.2% ในเดือน ก.ย. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.3% โดยเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.2% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3%
ด้านตัวเลขอัตราการเข้าสู่ตลาดแรงงานของสหรัฐ ซึ่งแสดงสัดส่วนของกำลังแรงงานต่อจำนวนประชากรทั้งหมด อยู่ที่ระดับ 62.8%
ทั้งนี้ ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมง นับเป็นข้อมูลที่ เฟด ให้ความสำคัญ เพื่อเป็นตัวจับสัญญาณในการบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ