ค่าเงินบาทปิดตลาดวันที่ 28ม.ย.ที่ระดับ 36.71 บาทต่อดอลลาร์
ค่าเงินบาททยอยแข็งค่าขึ้นในช่วงบ่ายตามจังหวะราคาทองคำปรับตัวขึ้นและการแข็งค่าของเงินเยนกรอบการเคลื่อนไหวของในสัปดาห์หน้า1-5 ก.ค.ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 36.40-37.20 บาท/ดอลลาร์ฯ
เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบอ่อนค่าในช่วงแรก ก่อนจะพลิกแข็งค่ากลับมาและปิดตลาดที่ระดับ 36.71 บาทต่อดอลลาร์ฯ แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 36.87 บาทต่อดอลลาร์ฯ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เงินบาททยอยแข็งค่าขึ้นในช่วงบ่ายตามจังหวะการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลกและ
การแข็งค่ากลับมาของเงินเยน ประกอบกับนักลงทุนยังคงรอติดตามตัวเลขอัตราเงินเฟ้อที่วัดจากดัชนีราคา PCE และ Core PCEเดือนพ.ค. ของสหรัฐฯ ในคืนนี้อย่างใกล้ชิด
สำหรับทิศทางฟันด์โฟลว์ในวันนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทย 2,620 ล้านบาท และ 1,220 ล้านบาท ตามลำดับ
ส่วนค่าเฉลี่ย Indicative forward points ของธุรกรรมระยะ 3 เดือนสำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้ 50-200 ล้านบาทต่อปี รายงานข้อมูล ณ 10.00 น. วันที่ 28 มิถุนายน 2567 จากเว็บไซต์ ธปท. อยู่ที่ -28.80 สำหรับผู้ส่งออก (ขายเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า) และที่ -25.19 สำหรับผู้นำเข้า (ซื้อเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า)
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์ถัดไป (1-5 ก.ค.) ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 36.40-37.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมิ.ย. ของไทย ปัจจัยการเมืองในประเทศ สถานการณ์สกุลเงินในภูมิภาค และถ้อยแถลงของประธานเฟด ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI และ ISM ภาคการผลิตและภาคบริการ ข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชน และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานเดือนมิ.ย. รายงาน JOLTS เดือนพ.ค. และบันทึกการประชุมเฟด (11-12 มิ.ย.)
นอกจากนี้ ตลาดยังรอติดตามการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษ (4 ก.ค.) ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนมิ.ย. ของจีน ญี่ปุ่น อังกฤษ และยูโรโซน และดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมิ.ย. ของยูโรโซนด้วยเช่นกัน