3 สิ่งที่ต้องรู้ ก่อนโหลดแอปทางรัฐ รับเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 สิงหาคม
อดีตผู้บริหารงานนวัตกรรมเผย 3 สิ่งที่ประชาชนต้องรู้ก่อนโหลดแอป "ทางรัฐ" เพื่อรับเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ลงทะเบียน 1 สิงหาคม ชี้หลังจบโครงการควรใช้ประโยชน์แอปทางรัฐต่อไป
วันที่ 1 สิงหาคม 2567 เวลา 8.00 น. เป็นต้นไป รัฐบาลจะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนรับเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านแอปทางรัฐ หลายคนอาจมีสารพัดคำถาม ถึงการใช้แอปทางรัฐ ทั้งวิธีการใช้งาน ความปลอดภัยของแอปฯ หรือการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล รายการ "เข้าเรื่อง" เผยแพร่ทางช่องยูทูปฐานเศรษฐกิจ สนทนากับดร.โกศล ทรัพย์ประเสริฐ ประธานบอร์ด สถาบันการเงิน เครดิตฟองซิเอร์ เวิลด์ และอดีตผู้บริหารสูงสุด ส่วนงานนวัตกรรม ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ถึงสิ่งที่ประชาชนต้องรู้ เกี่ยวกับแอปทางรัฐ และโครงการแจกเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ตนี้
ดร.โกศล กล่าวว่า สิ่งที่ประชาชนควรต้องรู้เกี่ยวกับเงินดิจิทัล อาจจะไม่ใช่เรื่องของแอปพลิเคชั่น แต่ผระการแรกที่ควรต้องรู้ คือเรื่องของเงิน 10,000 บาทที่ได้มา เพราะก็คือเงินภาษีของประชาชนทุกคน ในเมื่อจะต้องเป็นหนี้ร่วมกันแล้วก็ควรใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด เกิดเป็น GDP ให้กับประเทศ ควรมีการใช้ทั้งเงินดิจิทัล และเงินตนเอง และใช้กับสินค้าที่ใช้เลย ไม่เป็นการตุนเอาไว้ในอนาคต
ข้อที่ 2 ที่ต้องรู้คือ โครงการนี้ถือเป็นการยกระดับเรื่องทักษะด้านกจิทัลของคนไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนควรจะได้ใช้โอกาสนี้ได้เรียนรู้ และสามารถใช้งานได้อย่างชำนาญ จนในอนาคต เรื่องที่คุยในวันนี้ถือเป็นเรื่องที่ล้าสมัยไปแล้ว และข้อสุดท้าย และสำคัญที่สุดคือ การรู้เท่าทันมิจฉาชีพ ไม่ตกหลุมพลางการล่อลวง โดยเฉพาะการเสนอให้ผลตอบแทนจากการเอาเงินดิจิทัลไปแลก
สำหรับแอปพลิเคชันทางรัฐ ที่จะถูกใช้ในการลงทะเบียนยืนยันตัวตนทั้งในส่วนของประชาชนและร้านค้า รวมทั้งใช้เป็นช่องทางการใช้จ่ายด้วยนั้น สำหรับผู้ใช้อยากให้ทำความเข้าใจว่ามีลักษณะการใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือเหมือนเดิม ไม่ต่างไปจากที่เคยใช้แอปวอลเล็ตต่างๆ หรือไม่ต่างจากแอปฯเป๋าตังที่เคยใช้งาน แต่เชื่อว่าการลงทะเบียน หรือการใช้งานในครั้งนี้จะมีความตะกุกตะกักน้อยลงเนื่องจากมีเทคโนโลยีที่ดีขึ้น การประมวลผลที่เร็วขึ้น
ด้านการใช้งานซุปเปอร์แอปฯ คนไทยเองก็มีความคุ้นเคยกับการใช้งานซุปเปอร์แอปอยู่แล้ว เช่น LINE เป็นต้น เพราะหมายถึงความสามารถของแอปพลิเคชั่นที่สามารถใช้งานได้มากกว่า 1 อย่าง เช่นเป็นแอปฯที่สามารถใช้เพื่อแชทสนทนาได้ ใช้ชำระเงินได้ ใช้สั่งของ ใช้เรียกยานพาหนะ ใช้ซื้อสินค้า เป็นต้น หรือในประเทศจีนก็จะคุ้นเคยกับซุปเปอร์แอปฯ เช่น WeChat เป็นต้น
แต่ในส่วนของการสร้างแอปพลิเคชั่นถือว่ามีความแตกต่างกันอยู่พอสมควร เพราะด้วยเทคโนโลยีที่ใหม่ขึ้น สามารถทำอะไรได้มากขึ้น ย่อมทำให้ผู้พัฒนาสามารถนำซุปเปอร์แอปไปทำอะไรได้มากกว่าเดิม
สำหรับซุปเปอร์แอปฯทางรัฐ ที่ได้มีการพัฒนาขึ้นมาใหม่นี้ หลังพ้นระยะเวลาการใช้จ่ายเงินดิจิทัลไปแล้วก็ควรจะสามารถนำไปใช้ต่อในด้านที่เกี่ยวกับภาครัฐได้เช่นการชำระค่าต่อภาษีรถยนต์ เป็นต้น ควรรวมศูนย์ไว้จุดเดียวกันเพื่อให้ประชาชนมีความสะดวกในการเข้าถึงบริการภาครัฐได้ดียิ่งขึ้น และการรวมไว้ที่แอปพลิเคชั่นแอปเดียวยังลดโอกาสมิจฉาชีพในการแอบอ้างแอปฯรัฐไปหลอกลวงประชาชนได้อีกด้วย ดังนั้น จึงเห็นด้วยว่า แอปฯหลักของภาครัฐควรจะมีแอปพลิเคชั่นเดียว
ด้านความปลอดภัยของการเก็บข้อมูลของประชาชนนั้น ดร.โกศลกล่าวว่า โครงการแจกเงินผ่านดิจิทัลวอลเล็ตนี้ เป็นระบบที่มีความรวมศูนย์ในระดับหนึ่ง (centralized) ไม่ใช่แบบล็อกเชนที่เป็นลักษณะการกระจาย (decentralized) ดังนั้นข้อมูลจะมีการรวมรวมจัดเก็บไว้ เราก็ต้องเชื่อมั่นเชื่อใจในรัฐบาล ซึ่งข้อมูลก็จะไหลไปจัดเก็บโดยรัฐ ซึ่งไม่แตกต่างจากเมื่อครั้งของการใช้งานแอปฯเป๋าตัง ที่ต้องมีความเชื่อมั่นเชื่อใจในธนาคารกรุงไทยเป็นต้น
ซึ่งครั้งนี้ผู้ดูแลก็จะเป็นสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ DGA ร่วมกันกับหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง โดยเชื่อว่า แอปฯทางรัฐไม่ได้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อใช้เรื่องดิจิทัลวอลเล็ตอย่างเดียว ไม่เช่นนั้นจะเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลที่ต้องมาลงทุนทำแอปฯกันใหม่ ผู้ใช้ก็ต้องมาลงทะเบียนกันใหม่
แต่อยากให้มองเรื่องนี้ด้วยทัศนคติที่ให้แอปฯทางรัฐ เป็นซุปเปอร์แอปฯที่เป็นจุดเริ่มต้นในการเชื่อมต่อกับสิ่งอื่นๆต่อไป โดยมีเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตเป็นโครงการที่ให้ประชาชนได้เริ่มต้นใช้ซุปเปอร์แอปฯนี้ เพื่อให้ประเทศไทยพัฒนาไปสู่ไทยแลนด์ 5.0 หรือเป็นDigital Transformation และได้ประโยชน์ทางการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศไปด้วยกัน