นักกฎหมายภาษี ชี้ Negative Income Tax มีข้อดี แต่เกิดขึ้นไม่ง่าย

27 ส.ค. 2567 | 21:24 น.

อาจารย์มิก นักกฎหมายภาษีอากร และ CEO iTAX มองมาตรการ Negative Income Tax มีข้อดีหลายอย่าง แต่ใช้กับประเทศไทยไม่ง่าย แนะเก็บภาษีใต้ดินให้ได้ครบเสียก่อน

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ยุทธนา ศรีสวัสดิ์ (อาจารย์มิก) อาจารย์กฎหมายภาษีอากร และ CEO iTAX ให้ความเห็นต่อระบบ Negative Income Tax (NIT) ผ่านรายการ “เข้าเรื่อง” เผยแพร่ทางยูทูปช่องฐานเศรษฐกิจว่า เป็นระบบที่ทำให้ทุกคนต้องเข้าสู่ระบบภาษี ซึ่งมีข้อดีหลายอย่าง

ทั้งการมีข้อมูลครบถ้วน พร้อมสำหรับการดำเนินมาตรการเพื่อช่วยเหลือประชาชนได้โดยสะดวก และตรงเป้า สามารถโอนเงินสู่ประชาชนได้โดยตรง ช่วยลดความซ้ำซ้อนของระบบได้ ประชาชนไม่ต้องลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิหลายๆครั้ง

Negative Income Tax ทำให้มีฐานภาษีกว้างขึ้น ซึ่งอาจเก็บภาษีได้มากขึ้นจึงสามารถดำเนินนโยบายลดอัตราภาษีลงมาได้ และเมื่อคนที่มีรายได้น้อยหรือรายได้ไม่ถึงเกณฑ์เสียภาษี วันหนึ่งที่มีรายได้เข้าเกณฑ์เสียภาษีแล้ว ภาครัฐก็สามารถจัดเก็บภาษีตามระบบได้เลย

โดยส่วนตัวแม้จะเห็นด้วยกับ Negative Income Tax แต่ก็ไม่ได้มองว่าจะสามารถทำได้โดยง่ายในประเทศไทย เนื่องจากประเทศไทยยังมีตัวเลขเศรษฐกิจที่อยู่ในด้านมืด ที่อยู่นอกระบบอยู่มาก ซึ่งยังไม่สามารถนำขึ้นมาบนดินได้ และเศรษฐกิจนอกระบบเหล่านี้อยู่นอกระบบภาษีอีกด้วย  ดังนั้นกรมสรรพากรจำเป็นต้องมีข้อมูลมากกว่าที่ผู้ยื่นแบบภาษีแจ้งเอาไว้ 

โดยอาจต้องเชื่อมโยงข้อมูลกับธนาคารแห่งประเทศไทย ในเรื่องธุรกรรมที่มีลักษณะเฉพาะจำเป็นต้องตรวจสอบ เช่นการมีเงินโอนเข้าบัญชี 3,000 ครั้ง หรือ 400 ครั้งเป็นเงิน 2 ล้านบาท หรือการเชื่อมโยงข้อมูลกับเครดิตบูโร เช่นกรณีผู้มีสินเชื่อรถหลายๆคัน แสดงว่าเป็นผู้มีรายได้ไม่น้อยแต่กลับไม่ได้อยู่ในระบบภาษี ก็ต้องมีการตรวจสอบ เป็นต้น

อีกประการที่ต้องคำนึงถึงในการดำเนินมาตรการให้ความช่วยเหลือ หรือกระทั่งระบบ Negative Income Tax ก็คือต้องมีเงินสำหรับดำเนินมาตรการเสียก่อน เพราะหากต้องกู้มาเพื่อทำมาตรการจะถือว่ามาผิดทาง เพราะในประเทศที่ใช้มาตรการ Negative Income Tax เช่น สหรัฐฯ เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เป็นต้น ล้วนเป็นประเทศที่มีฐานะดี และมีความพร้อมจะทำสิ่งนี้ให้เกิดขึ้นได้ ซึ่งประเทศไทยยังต้องทำอะไรอีกมากพอสมควรที่เราจะมีอำนาจทางการเงินมากพอจะไปทำสิ่งนี้ได้

ดังนั้นข้อแรกที่ควรทำก่อนเรื่อง Negative Income Tax ก็คือการกวาดเอาสิ่งควรจะเก็บภาษีได้ สิ่งที่ควรจะเป็นของรัฐเอามาให้ได้เสียก่อน ถัดมาคือทัศนคติ และความพร้อมของหน่วยงานรัฐในการดำเนินมาตรการ หรือนโยบายรัฐ รวมถึงความพร้อมที่ต้องรองรับประชาชนในการยื่นภาษีปีละ 40-60 ล้านคนต่อปี

และต้องมีระบบที่สามารถใช้งานได้ง่าย และสะดวกมากพอ เพื่อให้คนที่ไม่เคยยื่นภาษีมาก่อน สามารถเข้าถึงระบบภาษีได้โดยง่าย เจ้าหน้าที่ก็ต้องมีความพร้อมทั้งการดูแล และให้ความรู้กับประชาชนเพื่อไม่ให้มีใครตกหล่นอีกด้วย 

ข้อดีของการที่ประชาชนทุกคนอยู่ในระบบภาษี ยังอาจจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในเชิงของการตระหนักถึงคุณค่าของเงินภาษี และมองเห็นเรื่องภาษีเป็นสิ่งปกติธรรมดา นำไปสู่การยกระดับประชาชนให้เป็น Active Citizen ที่สนใจและตรวจสอบมากขึ้น เกี่ยวกับการนำเงินภาษีของประชาชนไปใช้ และทำให้ผู้ใช้เงินภาษีของประชาชนต้องมีความเกรงใจประชาชนเจ้าของภาษีมากขึ้นในอนาคต อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ขึ้นได้ในอนาคต