ตลาดจับตาการประชุมเฟดพุธนี้ เทน้ำหนักขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.25%

30 ม.ค. 2566 | 03:46 น.
อัปเดตล่าสุด :30 ม.ค. 2566 | 03:55 น.

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เตรียมแถลงผลการประชุมนโยบายการเงินในวันพุธ (1 ก.พ.) ตลาดคาดครั้งนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกของปี 2566 เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.25%

 

ตลาดการเงิน ทั่วโลกกำลังจับตา การประชุมนโยบายการเงิน ของ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันอังคารที่ 31 ม.ค. และจะแถลงมติการประชุมในวันพุธที่ 1 ก.พ.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดีที่ 2 ก.พ.ตามเวลาไทย

นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% อีกเพียง 2 ครั้ง ก่อนที่จะยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. นี้ หลังทางการสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เมื่อวันศุกร์ (27 ม.ค.) ซึ่งบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อในสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว สอดคล้องกับการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า

  • นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.50%-4.75% ในการประชุมวันที่ 31 ม.ค. - 1 ก.พ.นี้
  • และจะปรับขึ้นอีก 0.25% สู่ระดับ 4.75%-5.00% ในการประชุมวันที่ 21-22 มี.ค.
  • จากนั้น คาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าว ก่อนที่จะ “ปรับลด” อัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 28-29 ก.ย.

นอกเหนือจากผลการประชุมเฟดแล้ว นักลงทุนยังจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ช่วงภายหลังการประชุมด้วย โดยนักลงทุนคาดการณ์ว่า นายพาวเวลล์อาจจะส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ซึ่งเร็วกว่าที่คาดไว้ หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนี PCE  เมื่อวันศุกร์ ซึ่งบ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเงินเฟ้อ

 

เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ

 

ด้านนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ได้ออกมาเตือนเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังเสี่ยงเผชิญภาวะถดถอย เนื่องจากดอกเบี้ยยังคงอยู่ในอัตราสูงแม้จะเห็นแนวโน้มการชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดแล้วก็ตาม

ทั้งนี้ รัฐมนตรีคลังสหรัฐเปิดเผยกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กระหว่างการเดินทางเยือนเมืองโจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ เมื่อวันศุกร์ (27 ม.ค.) ว่า ข้อมูลเงินเฟ้อและการจ้างงานได้ปรับตัวดีขึ้นในช่วงที่ผ่านมา แต่ก็ยอมรับว่า ยังมีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจสหรัฐจะถดถอย ขณะที่อัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับสูง

กลางสัปดาห์ที่ผ่านมา (26 ม.ค.) กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/2565 ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.9% ในไตรมาสดังกล่าว สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.8% หลังจากขยายตัว 3.2% ในไตรมาส 3/2565 ซึ่งบ่งชี้ว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐกำลังเริ่มที่จะชะลอตัว

ส่วนผลสำรวจรายเดือนล่าสุดของบลูมเบิร์กบ่งชี้ว่า บรรดานักเศรษฐศาสตร์คาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวลงในไตรมาสที่ 2 และ 3 และมีโอกาส 65% ที่เศรษฐกิจจะถดถอยในปีนี้