นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ในช่วงการยื่นแบบเสียภาษีบุคคลธรรมดา ระหว่างเดือน มกราคม- มีนาคม 2566 นี้ กรมสรรพากร จะเข้มงวดตรวจสอบการยื่นภาษีอย่างละเอียดรอบครอบมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่มีเกณฑ์ความเสี่ยงสูง
โดยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีความผิดปกติในการยื่นแบบเสียภาษีทั้งตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจในการยื่นแบบเสียภาษีให้ถูกต้อง ดังนั้น ในการยื่นแบบภาษีปีนี้จึงจะมีการตรวจสอบอย่างเข้มข้นขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อการคืนเงินภาษีช้า หากไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง จะได้รับเงินคืนภายใน 3 วัน แต่ถ้าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงจะได้คืนช้าเกิน 7 วัน
“ถ้ายื่นแบบภาษีอย่างถูกต้องตรงไปตรงมา ไม่ต้องกังวล หากได้รับเงินคืน กรมสรรพากรจะคืนให้ภายใน 3 วัน แต่คนใดอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ก็จะใช้เวลาในการตรวจสอบอย่างละเอียดมากขึ้น หากได้รับเงินคืน ก็จะคืนให้ แต่จะเกิน 7 วัน"
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีผู้อยู่ในระบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 11 ล้านคน ซึ่งเป็นมนุษย์เงินเดือน และอยู่ในฐานะต้องเสียภาษีเพียง 4 ล้านคน โดยการยื่นแบบเสียภาษีกว่า 90 % ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ และอีก 10 % ผ่านเอกสารหลักฐานที่เป็นกระดาษ
ขณะเดียวกัน ช่วงนี้เป็นช่วงการยื่นแบบเสียภาษี ทำให้มีมิจฉาชีพ แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรหลอกหลวงประชาชน ดังนั้น ขอให้ประชาชนที่ได้รับสายจากเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร ขอให้เชื่อว่าเป็นมิจฉาชีพทันที เพราะกรมสรรพากร ไม่มีนโยบายให้เจ้าหน้าที่โทรศัพท์ และส่งข้อความสั้น (เอสเอ็มเอส) รวมถึงทางไลน์ (Line) ไปยังผู้เสียภาษีโดยตรง
"เรายังคงใช้วิธีการส่งจดหมายไปตามที่อยู่ผู้เสียภาษี และให้นำจดหมายที่ได้รับมาติดต่อกรมสรรพากรในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม หากประชาชนมีข้อสงสัยเรื่องการยื่นแบบภาษี ให้โทรสอบถามเบอร์ 1161 ซึ่งขณะนี้ได้เพิ่มคู่สาย เพื่ออำนวยความสะดวกในการติดต่อสอบถามเรื่องการยื่นแบบภาษีไว้แล้ว"