นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติงบกลางเพิ่ม 9,140 ล้านบาท สำหรับโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งรวมเป็นวงเงิน 63,427 ล้านบาท โดยมีผู้ที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิทั้งสิ้น 14.59 ล้านคน จากผู้ลงทะเบียนที่ผ่านการตรวจสอบจากกรมการปกครองจำนวน 19.64 ล้านคน ซึ่งจะเริ่มประกาศผลในวันที่ 1 มี.ค.เป็นต้นไป ผ่านเว็บไซต์ https://welfare.mof.go.th
“ปัจจุบันมีผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 13.17 ล้านคน ส่วนผลคัดกรองบัตรสวัสดิการรอบใหม่ มีผู้ผ่าน 14.59 ล้านคน แบ่งเป็น กลุ่มที่ผ่านเกณฑ์โดยมีบัตรสวัสดิการในปัจจุบัน 60% คิดเป็น 8.7 ล้านคน และอีก 40% คิดเป็น 5.8 ล้านคน เป็นผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมบัตรสวัสดิการรายใหม่”นายอาคมกล่าว
สำหรับผู้ที่มีรายชื่อได้รับสิทธิจะต้องยืนยันตัวตนผ่าน 3 ธนาคาร ได้แก่
โดยแบ่งระยะเวลาการยืนยันตัวตนของผู้ได้รับสิทธิ มีทั้งหมด 5 รอบ ได้แก่
“ผู้ที่ยืนยันรอบ 2-4 จะได้รับสิทธิย้อนหลังได้ไม่เกิน 3 เดือน นับจากเดือนแรกที่เริ่มใช้สิทธิได้ (สิทธิย้อนหลังจะให้เฉพาะวงเงินการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและสังคม หรือร้านธงฟ้าฯ เท่านั้น) สำหรับผู้ที่ยืนยันตัวต้น รอบที่ 5 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง โดยจะได้รับสิทธิเฉพาะเดือนที่กระทรวงการคลังดำเนินการตั้งวงเงินให้”
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ผู้ที่ไม่ผ่านการคัดกรอง สามารถอุทธรณ์ได้ ตั้งแต่ 1 มี.ค.- 1 พ.ค. ระยะเวลา 62 วัน และจะเริ่มประกาศผล 20 มิ.ย.66 และเริ่มใช้สิทธิในบัตรได้ 1 ก.ค.66
โดยระบบประกาศผลการลงทะเบียนจะมีการแจ้งสาเหตุที่ลงทะเบียนไม่ผ่าน อาทิ
“เรามีความเป็นห่วงผู้ไม่ผ่านเกณฑ์ ซึ่งการตรวจสอบคุณสมบัติอาจจะมีความคาดเคลื่อน ซึ่งสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 60 วัน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานของรัฐ สถาบันการเงินของรัฐ ซึ่งหย่วยงานต่างๆ จะเข้าไปดูอีกครั้งว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร คลังจะดูแลอย่างเป็นธรรม และมีการคัดกรองอีกครั้ง”นายสันติกล่าว
ขณะที่วงเงินสิทธิบัตรคนจนรอบใหม่นี้ ได้มีการปรับสิทธิสวัสดิการใหม่ ได้แก่
ทั้งนี้ ค่าน้ำและค่าไฟฟ้า เปลี่ยนแปลงไม่ต้องสำรองจ่ายล่วงหน้าแล้ว แต่กระทรวงการคลังจะชำระให้โดยตรง