คลังจับตาเงินเฟ้อใกล้ชิด คาดปี 66 เฉลี่ย 3%

08 มี.ค. 2566 | 07:49 น.
อัปเดตล่าสุด :08 มี.ค. 2566 | 14:18 น.

คลังจับตาเงินเฟ้อใกล้ชิด แม้สัญญาณชะลอตังลง คาดปี 66 เงินเฟ้อเฉลี่ยอยู่ที่ 3% ชี้นโยบายการเงินการคลังดูแลต่อเนื่อง

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังยังต้องติดตามสถานการณ์เงินเฟ้อแบบเดือนต่อเดือนต่อไป แม้ว่าจะเห็นเงินเฟ้อ เดือนก.พ.66 ชะลอตัวลงก็ตาม ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากมาตรการต่างๆที่รัฐบาลออกมาช่วยดูแลด้านต้นทุนไม่ให้เพิ่มขึ้นมากเกินไป โดยเฉพาะเรื่องราคาพลังงานที่ยังคงตรึงราคาอยู่ ก็น่าจะมีส่วนทำให้เงินเฟ้อเริ่มชะลอตัวลง

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

“ยังต้องติดตามสถานการณ์เงินเฟ้อ แต่ตามประมาณการของทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กระทรวงการคลังและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ยังมองไปในทิศทางเดียวกันว่าอัตราเงินเฟ้อจะชะลอตัวลง"นายอาคมกล่าว 

ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะปีก่อนฐานสูง และปีนี้มีมาตรการต่อเนื่อง เช่น การลดภาษีน้ำมันดีเซล ซึ่งเป็นต้นทุนพลังงานของภาคขนส่ง เราก็ยังช่วยเหลืออยู่ และเรื่องค่าไฟก็ยังช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้มีรายได้น้อยเหล่านี้มีส่วนทำให้ระดับอัตราเงินเฟ้อและราคาสินค้าน่าจะชะลอตัวลง

"หากเป็นไปตามประมาณการอัตราเงินเฟ้อจะค่อย ๆ ลดลง จนกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมาย 1-3% โดยปีนี้เงินเฟ้อเฉลี่ยน่าจะอยู่ที่ 3% ซึ่งช่วงนี้นโยบายการเงินการคลังก็ประสานกันเพื่อดูแลเรื่องนี้ ซึ่งเป็นภาพใหญ่ ส่วนในด้านไมโคร มีการเข้าไปดูแลแต่ละกลุ่ม ดูแลเรื่องต้นทุน เช่น เรื่องค่าพลังงาน ซึ่งในอดีตรัฐบาลเคยช่วยเรื่องราคาพลังงานจากการลดภาษีสรรพสามิตมายาวนาน"

นอกจากนี้ มองว่าเศรษฐกิจไทยไม่ได้โตแบบร้อนแรงมากเกินไป คาดการณ์ว่าปีนี้การบริโภคจะขยายตัวที่ระดับ 3-4% จากปีก่อนอยู่ที่ 5% ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเป็นจุดเริ่มต้นที่คนพ้นจากสถานการณ์โควิด-19 และเริ่มกลับมาทำงาน มีเงินใช้จ่ายมากขึ้นกว่าช่วงการระบาด ทำให้ในปีที่ผ่านมาอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นจึงไม่ได้เป็นผลมาจากดีมานต์ไซด์ เพราะเป็นจุดที่คนเพิ่งเริ่มกลับมาใช้จ่ายมากขึ้น