ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ และประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เปิดเผยว่า ขณะนี้วิกฤตสถาบันการเงินในยุโรป ได้กลับมาสร้างความกังวลใจให้เกิดขึ้นอีกรอบ หลังจาก ดอยซ์แบงก์ หรือ Deutsche Bank แบงก์ยักษ์ใหญ่อันดับ 22 ของโลก และอันดับหนึ่งของเยอรมัน ที่มีสินทรัพย์ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ ราคาหุ้นร่วงลงมาอย่างน่าตกใจ
เห็นได้จากเมื่อคืนนี้ ราคาของ Deutsche Bank ได้ลงมา -14.5% ก่อนที่จะปรับตัวดีขึ้นมา -8.5% ราคาของ Deutsche Bank ซึ่งตกลงมาได้ถึง 14-15% ในระหว่างวัน ส่งผลให้ราคาหุ้นของแบงก์ใหญ่อื่น ๆ ในยุโรปตกลงด้วย เช่น
ดร.กอบศักดิ์ ยอมรับว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะช่วงนี้เป็นช่วงอ่อนไหว หลังจากมีข่าวออกมาเมื่อวานนี้ว่า Deutsche Bank ต้องการที่จะซื้อหุ้นกู้ (Tier 2 Subordinated Debt) กลับก่อนกำหนด 5 ปี (ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ว่าสามารถทำได้) ซึ่งปกติแล้ว ข่าวแบบนี้จะสะท้อนว่าแบงก์อยู่ในฐานะดี สามารถลดหนี้ได้ แต่ได้กลับกลายเป็นจุดเริ่มของความผันผวนรอบใหม่ และทำให้ทุกสายตา หันไปจับจ้อง Deutsche Bank
ทั้งนี้จากค่าประกันความเสี่ยงตราสารหนี้ (Credit Default Swap: CDS) ของหุ้นกู้ของ Deutsche Bank ปรับเพิ่มสูงขึ้น นำมา ซึ่งการเทขายหุ้น ทั้ง ๆ ที่ช่วงที่เกิดปัญหาในสวิส เงินฝากจำนวนหนึ่งได้ไหลไปที่ Deutsche Bank และ Deutsche Bank เพิ่งประกาศกำไรสูงสุดในรอบ 15 ปี ที่ประมาณ 5,500 ล้านดอลาร์ เพิ่มขึ้นจากประมาณ 2,000 ล้านดอลลาร์ในปีก่อน
ประธาน FETCO ระบุว่า การที่เกิดเช่นนี้ได้ ก็คงเพราะช่วงนี้เป็นช่วงไม่ปกติ เมื่อได้ยินข่าวอะไรที่แปลกออกไป ปัญหาก็สามารถตามมาได้ แม้กระทั่งแบงก์ที่มีฐานะที่ดีพอสมควร เช่น Deutsche Bank ก็สามารถลำบากได้ สะท้อนถึงความอ่อนไหวที่สะสมตัวจาก 1 ปีของ Perfect Storm จาก 1 ปีของการปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วของธนาคารกลางต่างๆ ที่สร้างแรงกดดันในกับระบบการเงินโลกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“จากนี้คงต้องมาดูกันต่อว่า อะไรจะเกิดขึ้นต่อไป ใครจะเป็นเป้ารายต่อไป แต่ที่แน่ ๆ ความปั่นป่วนอย่างนี้ คงไม่ใช่ครั้งสุดท้ายในวิกฤต Perfect Storm” ดร.กอบศักดิ์ ทิ้งท้าย