IMF ชี้เงินเฟ้อชะลอตัว ปูทางธนาคารกลางลดดอกเบี้ยครึ่งหลังปีนี้

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยวานนี้ (30 ม.ค.) ว่า การใช้นโยบายที่เข้มงวดของ ธนาคารกลาง ต่างๆ ได้ทำให้ เงินเฟ้อ ลดลงเร็วกว่าคาดในภูมิภาคต่างๆส่วนใหญ่ของโลก ทำให้เชื่อว่าจะเริ่มเห็น การลดดอกเบี้ย ลงในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 นี้

IMF คาดว่าเงินเฟ้อในระดับโลกจะอยู่ที่ระดับ 5.8% ในปี 2567 หลังจากพุ่งแตะ 6.8% ในปี 2566 และจะอยู่ที่ระดับ 4.4% ในปี 2568

ส่วนเงินเฟ้อในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้วจะอยู่ที่ระดับ 2.6% ในปีนี้ และ 2.0% ในปีหน้า

"เรามีชัยชนะต่อการทำสงครามกับเงินเฟ้อ และมีแนวโน้มมากขึ้นที่เศรษฐกิจจะมีภาวะซอฟท์แลนดิ้ง ซึ่งจะปูทางให้ธนาคารกลางสหรัฐ, ธนาคารกลางยุโรป, ธนาคารกลางอังกฤษ และธนาคารกลางแห่งอื่นๆ เริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงิน" นายปิแอร์-โอลิวิเยร์ กูแรงชาส์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ IMF กล่าว

นอกจากนี้ เขายังเปิดเผยการคาดการณ์ในขณะนี้ว่า บรรดาธนาคารกลางจะรอเพื่อให้ได้รับข้อมูลเพิ่มเติม โดยจะทำการตัดสินใจในการประชุมเป็นรายครั้ง ขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ได้รับ IMF คาดว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของบรรดาธนาคารกลางจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปีนี้ ขยายตัว 3.1%

ขณะเดียวกัน IMF ยังปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจโลกประจำปี 2567 นี้ โดยคาดว่าจะมีการขยายตัว 3.1% เพิ่มขึ้นจากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนต.ค.ที่ระดับ 2.9% โดยได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวที่แข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ และมาตรการกระตุ้นด้านการคลังของจีน

ส่วนปี 2568 IMF คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะมีการขยายตัวที่อัตรา 3.2%

IMF ระบุว่ามีแนวโน้มลดน้อยลงที่เศรษฐกิจโลกจะเผชิญภาวะ "ฮาร์ดแลนดิ้ง" หรือเศรษฐกิจหดตัวลงหลังมีการขยายตัวที่แข็งแกร่ง แม้จะมีความเสี่ยงครั้งใหม่จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งขึ้น และปัญหาห่วงโซ่อุปทานท่ามกลางความผันผวนจากปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลาง

ทั้งนี้ IMF คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาจะมีการขยายตัว 2.1% ในปีนี้ (2567) จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 1.5% และคาดว่า เศรษฐกิจจีนจะมีการขยายตัว 4.6% จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 4.2% ขณะที่คาดว่ายูโรโซน และญี่ปุ่นจะขยายตัว 0.9% ในปีนี้