สิงหาคมเป็นเดือนสุดท้ายของฤดูกาลโยกย้ายข้าราชการก่อนสิ้นปีงบประมาณ 30 กันยายน แต่กระบวนการแต่งตั้งโยกย้ายต้องหยุดชะงักลง หลังเกิดอุบัติเหตุุทางการเมือง กรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 5:4 วินิจฉัยว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน สิ้นสุดลงเฉพาะตัว
กรณีการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เนื่องจากไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญและมีพฤติกรรม อันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง อันมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ส่งผลให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พ้นตำแหน่งทั้งคณะ
แม้ภาวะสุญญากาศการเมืองไทยจะสิ้นสุดลงหลังนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้รับโปรดเกล้าเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 และปัจจุบันอยู่ระหว่างการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี ซึ่งนางสาวแพทองธารระบุว่า จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 26 สิงหาคม 2567 แต่จนถึงวันนี้โผการแต่งตั้งก็ยงไม่นิ่ง
รวมถึงกระทรวงการคลัง ซึ่งก่อนหน้ามีกระแสข่าวว่านายพิชัย ชุณหวชิร จะหลุดจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและให้ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังขึ้นดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการแทน
อย่างไรก็ตาม มีกระแสข่าวว่า หลังนายพิชัยเดินทางเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้าของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและยังเป็นบิดาของนางสาวแพทองธารแล้ว ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะยังเป็นของนายพิชัยต่อไป ดังนั้นนายจุลพันธ์ ก็จะยังนั่งที่เก้าอี้รัฐมนตรีช่วยว่าการต่อไป
สำหรับตำแหน่งข้าราชการระดับสูงของกระทรวงการคลังปีนี้จะมีข้าราชการระดับ 10 เกษียณราชการ 3 คนคือนายจำเริญ โพธิยอด อธิบดี กรมธนารักษ์ นางวรนุช ภู่อิ่ม รองปลัดกระทรวงการคลัง หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านทรัพย์สิน นายชาญวิทย์ นาคบุรี รองปลัดกระทรวงการคลัง หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน และนางสาวขนิษฐา สหเมธาพัฒน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง
ขณะที่ตำแหน่งปลัดกระทรวงการคลังของนายลวรณ แสงสนิท มีรายงานข่าวว่า บ้านจันทร์ส่องหล้าทาบทามให้นายลวรณนั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แต่นายลวรณปฏิเสธ โดยจะขอทำหน้าที่ตำแหน่งปลัดกระทรวงการคลังจนเกษียณอายุราชการจากนั้นจะพักผ่อน ไม่สนใจการเมืองใดๆ
ส่วนการโยกย้ายตำแหน่งในกระทรวงนั้น คุณหญิงบ้านจันทร์ส่องหล้าขอไว้เพียงตำแหน่งเดียวคือนายปิ่นสาย สุรัสวดี ปัจจุบันเป็นรองปลัดกระทรวงการคลัง หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายได้ ให้โยกย้ายไปเป็นอธิบดี กรมสรรพากร ส่วนที่เหลือเป็นอำนาจการพิจารณาของนายลวรณเอง
ทั้งนี้ นายปิ่นสายเป็นลูกชายของนายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตปลัดกระทรวงกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและอดีตผู้บริหารพรรคเพื่อไทย
ดังนั้นเมื่อมีการโยกนายปิ่นสายให้มานั่งอธิบดีกรมสรรพากร ก็จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงตามมาคือ
สำหรับตำแหน่งที่จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงคือนายธีรัชย์ อัตนวานิช จะยังนั่งเป็นอธิบดี กรมศุลกากร นายพชร อนันตศิลป์ ผู้อำนวยการ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) นางแพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดี กรมบัญชีกลางและนายธิบดี วัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงาน คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.)
ขณะที่กระทรวงการคลังมีนโยบายรัฐบาลที่ยังค้างคาอยู่คือ โครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ซึ่งรัฐบาลได้เปิดให้มีการลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม ล่าสุดยอดการลงทะเบียนแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ผ่านแอพพลิเคชัน ทางรัฐ ถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2567 มีผู้ลงทะเบียนแล้วกว่า 30 ล้านคน ซึ่งผู้เข้าข่ายยังสามารถลงทะเบียนได้ถึง 15 กันยายนนี้ ท่ามกลางกระแสข่าวว่า รัฐบาลจะล้มเลิกโครงการหรือเปลี่ยนวิธีการแจกเป็นเงินสดแทนเงินดิจิทัล
ล่าสุดนายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณกล่าวยืนยันว่า โครงการแจกดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต จะเปลี่ยนหลักเกณฑ์ โดยการแจกเป็นเงินสดนั้นสามารถแจกเป็นเงินสดได้ ขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลใหม่
ส่วนแหล่งเงินที่มาจากการบริหารจัดการงบประมาณปี 67 เพื่อนำมาใช้ในโครงการเงินดิจิทัลอีก 4.3 หมื่นล้านบาท สามารถทำได้หลายวิธี เช่น การใช้งบกลาง สำรองจ่าย ฉุกเฉินหรือจำเป็น หรือจะมาจากการโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณ งบกลาง ที่มีอยู่ที่เหลือ 10 รายการ