น.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายองค์กรสัมพันธ์และโฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เปิดเผยว่า ธปท.ติดตามสถานการณ์ค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้กระทบต่อภาคธุรกิจ ซึ่งยอมรับว่า การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทวันนี้ ค่อนข้างแข็งค่ามาก และมีความผันผวนมากขึ้น จากปัจจัยต่างๆ ที่เข้ามามากขึ้น
ทั้งนี้ปัจจัยที่กระทบค่าเงินบาท หลักๆมาจากต่างประเทศที่ทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงมาก หลังมีความเห็นเกี่ยวกับทิศทางการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยพิเศษมาจากราคาทองคำในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น เป็นปัจจัยหนุนให้ค่าเงินบาทแข็งค่ามากขึ้นด้วย
"ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวตามตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เช่น ตัวเลขเงินเฟ้อจากเดิมคาดอีกแบบ แต่ตัวเลขจริงออกมาอีกแบบ ทำให้การคาดการณ์ปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดปรับเปลี่ยนไป เดิมอาจมองว่า มีโอกาสลด 0.25% เป็น 0.50% ตัวเลขที่ออกมาแบบรายวัน ซึ่งสร้างความผันผวนให้ตลาด”
ทั้งนี้ เงินบาทเปิดตลาดวันนี้(13 ก.ย.ุ67) ที่ระดับ 33.37 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจาก จากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 33.74 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นการทำสถิติแข็งค่าสุดใหม่รอบกว่า 18 เดือน นับตั้งแต่เดือน ก.พ.66 เนื่องจากดอลลาร์ปรับตัวอ่อนค่าเมื่อเทียบทุกสกุลเงินหลัก
หลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่ต่างไปจาก ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ขณะที่ราคาทองคำปรับตัวพุ่งขึ้นทำนิวไฮทะลุ 2,550 ดอลลาร์/ออนซ์
ส่วนปัจจัยในประเทศน่าจะมีแรงกดดันให้บาทแข็งค่าเพิ่มเติมได้อีกจากการส่งออกทองคำ และต้องดูกระแสเงินทุนต่าง ประเทศ (Fund Flow) ที่ไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ นักบริหารเงินมองไว้ที่ 33.30 – 33.50 บาท/ดอลลาร์
ปัจจัยสำคัญ