Krungthai COMPASS มองกนง.ยังลดดอกเบี้ยนโยบายต่อ

17 ต.ค. 2567 | 10:19 น.
อัปเดตล่าสุด :17 ต.ค. 2567 | 10:21 น.

Krungthai COMPASS ชี้ กนง.ลดอกเบี้ย 0.25% เพื่อบรรเทาหนี้ ไม่เป็นอุปสรรคต่อการลกหนี้ครัวเรือน ชี้แนวโน้มกนง.ยังลดดอกเบี้ยได้อีก จากทิศทางเศรษฐกิจครึ่งปีหลังที่เติบโตชะลอลงจากช่วงครึ่งแรกปี 67

นายฉมาดนัย มากนวล นักวิเคราะห์จาก Krungthai COMPASS ธนาคาร กรุงไทย ระบุว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติข้างมาก 5 ต่อ 2 เสียง “ลด” อัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี 0.25% จาก 2.50% ต่อปี เป็น 2.25% ต่อปี โดยกนง.ประเมินว่า จะช่วยบรรเทาภาระหนี้และไม่เป็นอุปสรรคต่อการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้

นายฉมาดนัย มากนวล นักวิเคราะห์จาก Krungthai COMPASS ธนาคาร กรุงไทย

Krungthai COMPASS ประเมินว่า ยังคงมีความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อไปในระยะข้างหน้า สะท้อนจากมุมมองของ กนง. ต่อโมเมนตัมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 ที่คาดว่าจีดีพีจะเติบโต 1.0%เมื่อเทียบกับ 1.2% ในครึ่งแรกปี 67 ตามด้วยแรงส่งที่แผ่วลงต่อเนื่องสู่ 0.6%QoQsa ในปี 2568

“ปัจจัยหลักจากการชะลอตัวของการบริโภคภาคเอกชนและการส่งออกในปีหน้า ขณะที่แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในช่วงที่เหลือของปีรวมถึงตัวเลขคาดการณ์ในปี 2568 ที่ 1.2% ยังต่ำกว่าค่ากลางของกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ”

นอกจากนี้ เศรษฐกิจไทยอาจเผชิญความไม่แน่นอนที่จะส่งผลกระทบต่อภาวะทางการเงิน (Financial conditions) จาก

  1. การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของบรรดาธนาคารกลางหลักฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะเฟดซึ่งอยู่ในช่วงวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง ส่งผลต่อความผันผวนในตลาดการเงินโดยเฉพาะค่าเงินบาท ซึ่งอาจกดดันต่อความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ
  2. เศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัวช้ากระทบต่อการขยายตัวของสินเชื่อมากกว่าที่ กนง. คาด 

มองไปข้างหน้า ปัจจัยเหล่านี้จะเพิ่มความเสี่ยงด้านต่ำต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ และอาจเป็นเงื่อนไขสำคัญต่อการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมได้

 

ทั้งนี้เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัว 2.7% ในปี 2567 และ 2.9% ในปี 2568 โดยเติบโตต่อเนื่องจาก 1.9% เมื่อปี 2566 ด้วยแรงหนุนจากภาคการท่องเที่ยว และการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ รวมถึงการส่งออกที่ปรับตัวดีขึ้นตามความต้องการสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ในตลาดโลก

Krungthai COMPASS มองกนง.ยังลดดอกเบี้ยนโยบายต่อ

อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวยังมีความแตกต่างกันในแต่ละภาคส่วน โดยการส่งออกสินค้าและการผลิตภาคอุตสาหกรรมบางกลุ่ม รวมถึง SMEs ยังถูกกดดันจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง  

ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มอยู่ที่ 0.5% และ 1.2% ในปี 2567 และ 2568 ตามลำดับ โดยอัตราเงินเฟ้อในหมวดอาหารสดมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นจากภาวะอากาศแปรปรวน ขณะที่ผลของฐานต่ำในปีก่อนจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อในหมวดพลังงานเพิ่มขึ้น

ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในปี 2567 และ 2568 จะอยู่ในระดับต่ำที่ 0.5% และ 0.9% ตามลำดับ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากสภาพแข่งขันสูงในด้านราคาของสินค้านำเข้า คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะทยอยกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงปลายปี 2567 สำหรับอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ระยะปานกลางนั้นยังอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับกรอบเป้าหมาย