จากกรณีโครงการทางยกระดับถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง (ช่วงหน้าปั๊มน้ำมัน ปตท.) ถนนหลวงแพ่ง แขวงทับยาว เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร ได้พังถล่มลงมาระหว่างการก่อสร้าง ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บ 12 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2566 นั้น
ล่าสุด นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้สำนักงาน คปภ. เขตบางนา และสำนักงาน คปภ. เขตท่าพระสาย คุ้มครองสิทธิประโยชน์ บูรณาการร่วมกันเพื่อตรวจสอบการทำประกันภัยและติดตามรายงานความเสียหายอย่างเร่งด่วน
นอกจากนี้ ได้ให้ลงพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับผู้ประสบภัยและครอบครัว เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบความเสียหายทั้งต่อชีวิต ร่างกายและทรัพย์สินจากการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ พบว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย เป็นพนักงานของโครงการดังกล่าว ส่วนผู้บาดเจ็บ 12 ราย เป็นพนักงานก่อสร้าง 5 ราย และประชาชนที่ใช้เส้นทางสัญจรในบริเวณนั้น 7 ราย
โดยตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าโครงการทางยกระดับถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง ได้มีการทำประกันภัยการปฏิบัติงานตามสัญญาไว้กับ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) เริ่มต้นความคุ้มครองวันที่ 9 มิถุนายน 2566 ถึงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2568 คุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอกวงเงิน 50,000,000 บาท ในสัดส่วน 60% และบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ในสัดส่วน 40%
สำหรับทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว เบื้องต้นตรวจสอบพบ ดังนี้
“การติดตามการจ่ายค่าสินไหมทดแทนของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ สำนักงาน คปภ. เขตบางนา ได้ประสานบริษัทประกันภัยที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุในครั้งนี้แล้ว เพื่ออำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บอย่างเต็มที่”
นอกจากนี้ สำนักงาน คปภ. อยู่ระหว่างการบูรณาการการทำงานร่วมกับสมาคมประกันชีวิตไทย และสมาคมประกันวินาศภัยไทย เพื่อตรวจสอบเพิ่มเติมว่า ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บในอุบัติเหตุครั้งนี้มีการทำประกันภัยประเภทอื่น ๆ ไว้ด้วยหรือไม่ หากตรวจสอบพบภายหลังว่าผู้ประสบภัยมีการทำประกันภัยประเภทอื่น ๆ เพิ่มเติมอีก ก็จะได้รับค่าสินไหมทดแทนเพิ่มเติมตามสัญญาประกันภัยที่ระบุไว้ทุกประการ
“สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและมีความห่วงใยต่อผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุครั้งนี้ และพร้อมจะดูแลในด้านประกันภัยอย่างเต็มที่ ทั้งนี้อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา และกับทุกคน จึงควรให้ความสำคัญกับการทำประกันภัยเพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงภัย โดยเฉพาะการก่อสร้างโครงการที่เกี่ยวกับระบบสาธารณูปโภค หรือโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ซึ่งที่ผ่านมาเกิดอุบัติเหตุอยู่เนื่อง”