สิ่งสำคัญที่สุดของเทรดเดอร์ก็คือ การเทรดยังไงให้ได้เงิน ไม่ว่าจะเป็นการได้เงินอย่างสม่ำเสมอทุกวัน หรือได้เงินอย่างสม่ำเสมอในทุกๆเดือน แต่สุดท้ายก็มีแค่ขอให้การเทรดเราได้ตังค์นั่นคือ Mission ของคนที่เป็นเทรดเดอร์
แต่ก็ใช่ว่าจะเทรดได้สำเร็จทุกครั้ง
ส่วนใหญ่เทรดเดอร์มักตามหาหน้าเทรดหรือ วิธีการเทรดแบบเทพเพื่อให้ได้ผลกำไรที่แน่นอนชัดเจน สิ่งสำคัญไม่ใช่เพียงแค่หน้าเทรดหรือการซื้อขายให้ได้ตังค์ทุกครั้งอย่างเดียว
แต่เป็นการวางแผนว่าเราจะทำยังไงให้เสียเงินได้น้อยที่สุด
พูดง่ายๆเลยก็คือ ก่อนการซื้อขายหรือก่อนการเทรดต้องคิดเอาไว้ก่อนเลยว่าไม้นี้ที่เราซื้อไปจะขาดทุนกี่บาทและตั้งใจให้แน่วแน่ ว่า ถ้าลงมาถึงจุดที่ต้องตัดขาดทุนหรือจุดที่เรายอมรับการขาดทุนแล้ว ต้องตัดใจทันทีไม่ลังเลไม่ยื้อไม่เข้าข้างตัวเองเด็ดขาด
ถามว่าแล้วถ้ากำไรจะเอาเท่าไหร่
ส่วนใหญ่พอเทรดเดอร์ที่มีการฝึกวิชามาว่า พอสมควรก็จะฝึกการตัดขาดทุนได้ดีทำได้อย่างดีเลยทีเดียว แต่ก็จะก็จะพ่ายแพ้ต่อการทำกำไรอยู่ดี เพราะว่าเมื่อราคาเพิ่มขึ้นกำไรเราเพิ่มขึ้น
ดังนั้นเมื่อเทรดก็ต้องย่อมเป็นคนละอย่างกันอยู่ดีด้วยความคิดแบบนั้นทำให้เทรดเดอร์ก็จะติดบ่วงอีก 1 บ่วงนั่นก็คือ
การทำกำไรไม่เป็น
สุดท้ายแล้วผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก็คือกำไรจริงแต่ไม่ขาย พอไม่ขายราคาลงมาเท่าทุนก็ไม่ขาย พอต่ำกว่าทุนก็ไม่ขาย
สุดท้ายก็ต้องมานั่งตัดขาดทุนตามเป้าหมายแรกที่เราวางคัทลอสไว้ ว่าถ้าหลุดตรงนี้จะไม่ยอมขาดทุนไปมากกว่านั้นก็คือถึงจุดที่ต้องคัทก็ต้องลงมาคัทอยู่ดีถ้าเรียบเรียงคำพูดให้ใหม่ก็คือ
สุดท้าย กำไรไม่ขาย ต้องมาขายตัดขาดทุนนั่นแหละ
สิ่งที่ผิดพลาดในประเด็นนี้นั่นก็คือ
การวางแผนทำตามแผนดีแล้ว แต่ประเด็นนี้ก็คือ ทำตามแผนแล้วในจุดซื้อดี วางจุดขาดทุนดี วางเป้าหมายขายดี
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือวางแผนแต่ไม่ทำให้สุด
ให้ความอยากได้มากขึ้นมาครอบงำ
คือการทำตามแผนแค่ครึ่งเดียว การทำตามแผนในจุดของการคัดลอส แต่ไม่ทำตามแผนในจุดของทำกำไรเพราะว่าคิดเอาเองว่าฉันอยากได้กำไรเพิ่ม
นอกจากนี้เทรดเดอร์บางคนก็จะมีเรื่องของการวางเป้าหมายในการขายไม่ชัดเจนเพียงพอไม่หนักแน่นเพียงพอ
เทรดเดอร์ที่อยากจะผ่านบ่วงตรงนี้ไปได้
การทำตามแผนอย่างเคร่งครัด ก็จะทำให้ได้กำไรอย่างสม่ำเสมอ คือคติที่สำคัญที่สุด