ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) ครั้งที่ 1/2565 วานนี้ (18 ต.ค.)เพื่อพิจารณาอนุมัติ ข้อเสนอที่บริษัทแอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด หรือ AWN บริษัทในเครือบมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) เข้าซื้อหน่วยลงทุนใน JASIF จากบมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล(JAS) จำนวน 1,520 ล้านหน่วย หรือ 19% ในราคาหน่วยละ 8.5 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 12,920 ล้านบาท โดยมี 2 วาระสำคัญที่ต้องพิจารณา ได้แก่
วาระ 1.1 พิจารณาอนุมัติให้ JAS ขาย หน่วยลงทุนในกองทุนรวม และการขายหุ้นสามัญในบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) (TTTBB)ให้แก่ AWN ตลอดจนผ่อนผันหรือแก้ไขรายละเอียดบางประการที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนตัว ผู้สนับสนุนจาก JAS เป็น AWN
วาระ 1.2 พิจารณาอนุมัติผ่อนผัน และ/ หรือ แก้ไขรายละเอียดบางประการที่เกี่ยวข้องกับการเช่าและค่าเช่าเส้นใยแก้วนำแสง (OFCs) และยกเลิกสัญญาประกันรายได้ค่าเช่า และสัญญาให้บริการจัดหา ผู้เช่าทรัพย์สิน และการเพิ่มค่าเช่าล่วงหน้า ที่ TTTBB ตกลงชำระให้กองทุนรวม และ แก้ไขโครงการจัดการกองทุนรวมตามที่จำเป็นเพื่อให้สอดคล้องกับมติของที่ประชุมผู้ถือหน่วยลงทุน ซึ่งรวมถึงการแก้ไขโครงการจัดการกองทุนรวมเพื่อให้ กองทุนรวมสามารถคืนเงินลงทุนในจำนวนไม่เกินค่าเช่าล่วงหน้าที่TTTBB ตกลงชำระให้กองทุนรวม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมวิสามัญ ฯ ผู้ถือหน่วยลงทุน JASIF มีผู้เข้าร่วมประชุมรวมทั้งสิ้น 1,093 ราย ถือหน่วยลงทุนจำนวน 3,607,963,471 หน่วย คิดเป็น 45.0995% ของจำนวนหน่วยทั้งสิ้น 8,000 ล้านหน่วย โดยเป็นผู้ถือหน่วยเดินทางมาด้วยตัวเอง 584 ราย รวม 233.28 ล้านหน่วย รับมอบฉันทะ 509 ราย ถือรวม 3,374.67 ล้านหน่วย
โดยการประชุมเริ่มตั้งแต่ 13.30 น. แต่กว่าจะลงมติราว 17.00 น.ยืดเยื้อกว่า 5 ชั่วโมงกว่าจะลงมติกันได้ เพราะนักลงทุน รายย่อยซักถามอย่างดุเดือด ระหว่างบริษัทจัดการกองทุน ที่กำลังสรุปข้อเท็จจริง และความเห็นของบริษัทจัดการกองทุน ในแต่ละวาระ เช่น ถ้าเงื่อนไขสัญญาใหม่ดีจริง ทำไมราคาหุ้น JASIF ที่ปรับลดลง 26% มีความไม่ชอบมาพากล ในการอินไซเดอร์หุ้นหรือไม่ รวมทั้งข้อเสนอปิดกองทุน JASIF คืนมูลค่าสุทธิให้ผู้ถือหน่วย ก่อนกองทุนด้อยค่าไปมากกว่านี้ หลังจากนั้นจะตั้งกองทุนใหม่ ภายใต้สัญญาใหม่สปอนเซอร์ใหม่แทน , ผู้จัดการกองทุนได้มีการต่อรอง กับสปอนเซอร์ รายใหม่ เพื่อปกป้องผู้ถือหน่วยบ้างหรือไม่ ฯลฯ
อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นเวลา 17.00 น. จึงเปิดให้โหวต ในขณะที่ยังมีกลุ่มผู้ถือหน่วยบางส่วน ค้านวิธีการลงคะแนนและการนับคะแนน เพราะว่าเกรงว่าจะเกิดความไม่โปร่งใสเกิดขึ้น และไม่ไว้ใจ บริษัทจัดการกองทุน แม้บริษัทจัดการกองทุนชี้แจ้งว่า วิธีการลงคะแนน และการนับคะแนนดังกล่าวนั้นได้ดำเนินการตามกฎเกณฑ์เป็นระบบเดียวกันกับที่เคยปฏิบัติกันมาอยู่แล้ว
คว่ำวาระ 1.2 - ผ่านวาระ 1.1 และ 1.3
สำหรับผลการลงมติปรากฏว่า วาระที่ 1.1 อนุมัติให้ JAS ดำเนินการขายหน่วยลงทุนในกองทุนรวม ผู้ถือหน่วยอนุมัติวาระนี้ด้วยคะแนน 1,743.82 ล้านเสียงคิดเป็น 82.90% , ไม่เห็นด้วย 358.14 ล้านเสียง คิดเป็น 17.02% และ งดออกเสียง 1.51 ล้านเสียง คิดเป็น 0.07% วาระหนี้ผ่าน เพราะคะแนนเสียงเห็นด้วยมากกว่า 3 ใน 4
ส่วนวาระ 1.2 การพิจารณาอนุมัติ ผ่อนผัน เกี่ยวการเช่าและค่าเช่าเส้นใยแก้วนำแสง (OFCs) และยกเลิกสัญญาประกันรายได้ค่าเช่า และสัญญาให้บริการจัดหา ผู้เช่าทรัพย์สิน และการเพิ่มค่าเช่าล่วงหน้า ที่ TTTBB ตกลงชำระให้กองทุนรวม มีผู้ไม่เห็นด้วย 647.25 ล้านเสียง คิดเป็น 30.77%, เห็นด้วย 1,454.64 ล้านเสียง คิดเป็นสัดส่วน 69.15% และ งดออกเสียง 1.58 ล้านเสียง คิดเป็น 0.07% ทำให้คะแนนเสียงไม่ถึง 3 ใน 4 ของเสียงที่ เข้าร่วมประชุมทั้งหมด
นายพรชลิต พลอยกระจ่าง รองกรรมการผู้จัดการ Head of Real Estate Infrastructure Investment บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทุน กล่าวว่า ที่ประชุมผู้ถือหน่วย JASIF โหวตไม่อนุมัติวาระ1.2 ขณะที่โหวตอนุมัติวาระ 1.1 และ 1.3 ว่า
"หลังจากนี้ บลจ.บัวหลวงในฐานะผู้จัดการกองทุน JASIF จะนำผลโหวตไปรายงานต่อ ADVANC เพื่อพิจารณาต่อไปว่า ทาง ADVANC จะยังสนใจซื้อ JASIF อยู่อีกหรือไม่ หรือจะดำเนินการต่ออย่างไร ดังนั้นดีลนี้จะจบสมบูรณ์ได้หรือไม่ ขึ้นกับทาง ADVANC ตัดสินใจ"
ด้านแหล่งข่าวการเงินกล่าวว่า จากมติผู้ถือหน่วยวานนี้ ทำให้บริษัทต้องนำเรื่องดังกล่าวไปหารือกับ คณะกรรมการ (บอร์ด) ของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANCก่อนที่จะมีมติใดๆ แต่ยอมรับว่า การที่ผู้ถือหน่วยไม่อนุมัติ วาระที่ 1.2 เรื่องการปรับลดค่าเช่า และยกเลิกประกันรายได้ค่าเช่าเส้นใยแก้วนำแสง ทำให้การดำเนินการในดีลนี้เป็นไปด้วยความลำบากมากขึ้น
นายพิสุทธิ์ งามวิจิตวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า กรณีที่โหวตผ่านเฉพาะวาระที่ 1.1 และ 1.3 แต่วาระที่ 1.2 ไม่ผ่านนั้น แต่ (เชื่อว่า) ADVANC ยังคงยืนยันที่จะซื้อต่อไป ประเมินมูลค่าของ ADVANCที่จะเพิ่มขึ้นจากดีลนี้ไว้ที่ 7 บาทต่อหุ้น ซึ่งคาดว่าหุ้นจะปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากดีลผ่าน ขณะที่ราคาเหมาะสมจะปรับเพิ่มเป็น 257 บาท ขณะที่JASIFประเมินราคาเหมาะสมไว้ที่ 9.4 บาทต่อหน่วย เนื่องจากมีการต่ออายุสัญญาออกไป และไม่มีการลดค่าเช่า