ส่อง10 หุ้นไทย"ต่างชาติ"ซื้อสูงสุด DELTA รั้งแชมป์ ลุ้นเข้า SET50

04 ธ.ค. 2565 | 05:00 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ธ.ค. 2565 | 15:36 น.

เปิดโผ 10 อันดับหุ้นไทย นักลงทุนต่างชาติซื้อขายสูงสุด หุ้น DELTA ครองแชมป์ซื้อมากที่สุด ลุ้นเข้า SET50 -SET100 รอบใหม่ ส่วน KBANK ถูกขายมากที่สุด

 

รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยตัวเลขการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (28 พ.ย.- 2 ธ.ค.65) มีมูลค่ารวม 304,963.90 ล้านบาท หรือเฉลี่ยต่อวันที่ 60,992.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.60% จากสัปดาห์ก่อน โดยดัชนีตลาดหุ้นไทย ( SET Index ) ปิดการซื้อขายปลายสัปดาห์ ( 2 ธ.ค.65 ) ที่ระดับ 1,641.63  จุด เพิ่มขึ้น 1.28% จากระดับปิดของสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 1,620.84 จุด

 

มูลค่าซื้อขายแยกตามนักลงทุนรายกลุ่ม  ดังนี้

 

  • นักลงทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิ  4,492.59 ล้านบาท ( มูลค่าสะสมตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน สถานะซื้อสุทธิ 186,146.43 ล้านบาท )
  • นักลงทุนสถาบัน ซื้อสุทธิ  1,073.49  ล้านบาท (มูลค่าสะสมตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน สถานะขายสุทธิ 155,035.42 ล้านบาท )
  • บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 277.95 ล้านบาท ( มูลค่าสะสมตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน สถานะขายสุทธิ 1,343.40  ล้านบาท ) 
  • นักลงทุนรายย่อยในประเทศ ขายสุทธิ 5,844.04 ล้านบาท (มูลค่าสะสมตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน สถานะขายสุทธิ 29,767.61   ล้านบาท )
     

ทั้งนี้การซื้อของบัญชี“เอ็นวีดีอาร์” (NVDR) ซึ่งเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับนักลงทุนต่างประเทศในการซื้อหุ้นไทย ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 2 ธ.ค.65 พบว่า

 

10 อันดับหุ้นไทย ที่นักลงทุนต่างชาติซื้อมูลค่าสูงสุด ได้แก่

 

  • DELTA มูลค่าซื้อสุทธิ  313.42  ล้านบาท
  • CPALL  มูลค่าซื้อสุทธิ 312.28ล้านบาท
  • BDMS  มูลค่าซื้อสุทธิ 125.65 ล้านบาท
  • GULF  มูลค่าซื้อสุทธิ  95.66 ล้านบาท
  • MAKRO มูลค่าซื้อสุทธิ 93.66 ล้านบาท
  • TLI มูลค่าซื้อสุทธิ 68.20 ล้านบาท
  • JWD มูลค่าซื้อสุทธิ 65.57 ล้านบาท
  • TIDLOR มูลค่าซื้อสุทธิ  59.82 ล้านบาท
  • SPALI มูลค่าซื้อสุทธิ  49.03 ล้านบาท
  • BAM มูลค่าซื้อสุทธิ   47.34 ล้านบาท

 
 
10 อันดับหุ้นไทย ที่นักลงทุนต่างชาติขายมูลค่าสูงสุด ได้แก่

 

  • KBANK  มูลค่าขายสุทธิ  414.68 ล้านบาท
  • HANA  มูลค่าขายสุทธิ  251.62 ล้านบาท
  • THG  มูลค่าขายสุทธิ 178.26 ล้านบาท
  • PTTEP มูลค่าขายสุทธิ 162.08  ล้านบาท
  • BBL  มูลค่าขายสุทธิ 150.99 ล้านบาท
  • SCC มูลค่าขายสุทธิ 150.94  ล้านบาท
  • AOT  มูลค่าขายสุทธิ 141.97 ล้านบาท
  • PTTGC  มูลค่าขายสุทธิ  132.86 ล้านบาท
  • CPF  มูลค่าขายสุทธิ 129.33  ล้านบาท
  • KCE  มูลค่าขายสุทธิ 98.46   ล้านบาท

 

 

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซียพลัส ( ASPS) ออกบทวิเคราะห์ล่าสุด ( 2 ธ.ค.65 ) คาดการณ์หุ้นเข้าออก SET50 SET100 รอบครึ่งแรกปี 66 

 

ฝ่ายวิจัย ฯได้ทำการคำนวณหาหุ้นเข้าออก SET50 SET100 รอบ 1H66 คาดตลาดฯ ประกาศสัปดาห์ที่ 3 เดือน ธ.ค. และมีผลบังคับใช้1 ม.ค. 66 ดังนี้

 

  • หุ้นที่มีโอกาสเข้า SET50 คือ DELTA, RATCH, COM7 และอีก 1 บริษัทอาจะเป็น BJC มีโอกาส 75% หรือ CENTEL 25% ขึ้นอยู่กับการกำหนดกฏเกณฑ์เรื่องระยะเวลาของสภาพคล่องที่ใช้คำนวณ
  • หุ้นออกจาก SET50 คือ SAWAD, KCE, IRPC และ BLA
  • หุ้นที่คาดว่าเข้า SET100 คือ DELTA, BYD, AAV, NEX, BA และ TVO
  • หุ้นออกจาก SET100 คือ TTA, SYNEX, SUPER, STEC, MAJOR และ BEC

 

 

ส่อง10 หุ้นไทย\"ต่างชาติ\"ซื้อสูงสุด DELTA รั้งแชมป์ ลุ้นเข้า SET50

 

ฝ่ายวิจัย ASPS ระบุอีกว่าจากสถิติในอดีต หุ้นที่ถูกคัดเข้ามักจะปรับตัวเพิ่มขึ้น และหุ้นที่ออกมักจะปรับตัวลดลง โดยเฉพาะในช่วง 1 เดือนก่อนมีผลบังคัยใช้ โดยหุ้นเข้า SET50 มักปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย+5.7% ออก -2.1% และหุ้นเข้า SET100 มักปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย +1.3% ออกลบเล็กน้อย -0.9%

 

และจากรายชื่อดังกล่าว ฝ่ายวิจัยเห็นว่า มีหุ้นที่ฝ่ายแนะนำมาตลอด 3 บริษัท คือ COM7 (เข้า SET50), STEC BEC (ออก SET100) ซึ่งมีปัจจุบันมีสัดส่วนการถือครองจากกองทุนในประเทศที่ต่ำกว่าปกติ (Under-Owned) และได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ 

 

โดยหุ้นที่ถูกคัดเข้า SET50 อย่าง COM7 น่าจะมีแรงหนุนเพิ่มเติมทั้งจาก Active Fund และ Passive Fund ส่วน STEC, BEC น่าจะถูกกดดันต่ำ เนื่องจากกองทุนถือครองน้อยกว่าปกติอยู่แล้ว และราคาที่อยู่ในระดับต่ำ Upside เปิดกว้าง พร้อมกับยังได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจในประเทศที่อยู่ในแนวโน้มฟื้นตัวอย่างชัดเจน

 

กลยุทธ์ : แนะนำเก็งกำไรที่มีโอกาสถูกเข้าคำนวณใน SET50 และ SET100 ในช่วงเดือน ธ.ค. 65 โดยชื่นชอบหุ้น COM7 มากสุด