ดาวโจนส์ปิดลบ 305 จุด หลังสหรัฐเผยดัชนีราคาผู้ผลิตสูงกว่าคาดการณ์

09 ธ.ค. 2565 | 23:44 น.
อัปเดตล่าสุด :10 ธ.ค. 2565 | 06:51 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันศุกร์ (9 ธ.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต(PPI)ที่สูงกว่าคาดการณ์ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้เฟด เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,476.46 จุด ลดลง 305.02 จุด หรือ -0.90%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,934.38 จุด ลดลง 29.13 จุด หรือ -0.73% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,004.62 จุด ลดลง 77.39 จุด หรือ -0.70%
          

ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 2.8%, ดัชนี S&P500 ร่วงลง 3.4% และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 4%
          

ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลงในสัปดาห์นี้ หลังจากเพิ่มขึ้น 2 สัปดาห์ติดต่อกัน โดยถูกกดดันจากการที่นักลงทุนวิตกว่าเศรษฐกิจอาจจะถดถอยในปีหน้า เนื่องจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)

นักลงทุนกังวลว่า เฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนี PPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิตประจำเดือนพ.ย.ในวันศุกร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และทำลายความหวังที่ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว
         

ดัชนี PPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน พุ่งขึ้น 7.4% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 7.2% และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PPI ทั่วไปดีดตัว 0.3% ในเดือนพ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.2%
         

ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน พุ่งขึ้น 6.2% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.9% และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PPI พื้นฐานดีดตัวขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.2%
         

สัญญาดอกเบี้ยล่วงหน้าบ่งชี้ว่า มีโอกาส 77% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในสัปดาห์หน้า และมีโอกาส 23% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75%

 

บรรดานักลงทุนจะจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในวันที่ 13 ธ.ค. ก่อนที่เฟดจะเปิดเผยผลการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 14 ธ.ค. ซึ่งเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของปีนี้
         

หุ้น 10 ใน 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 ปิดลบ นำโดยกลุ่มพลังงานซึ่งร่วงลง 2.33% ตามมาคือหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ ร่วง 1.28%
         

หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 7 แล้ว ซึ่งเป็นการลดลงต่อเนื่องยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2561 เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวลงในรอบสัปดาห์นี้จากความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย