บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน )หรือ CPF แจ้งตลาดหลักทรัพยแห่งประเทศไทย ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน (Treasury Stock) เพื่อบริหารทางการเงิน เนื่องจากระดับราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชี (Book value) โดยจะมีวงเงินสูงสุดไม่เกิน 5,000 ล้านบาท จำนวนหุ้นที่จะซื้อคืน 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท คิดเป็น 2.32% ของหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมด
CPF ระบุว่าจะซื้อหุ้นคืนด้วยวิธีจับคู่อัตโนมัตผ่านระบบซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ กำหนดระยะเวลาที่จะซื้อหุ้นคืนตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค.65 - 18 มิ.ย.66 ซึ่งจะมีราคาซื้อคืนจะไม่เกินกว่า 115% ของราคาปิดของหุ้นเฉลี่ย 5 วันทำการซื้อขายก่อนหน้าวันที่ทำรายการซื้อหุ้นคืน
ทั้งนี้ ราคาปิดของหุ้นเฉลี่ยย้อนหลัง 30 วัน ทำการตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค.-13 ธ.ค.65 เท่ากับ 24.36 บาทต่อหุ้น
CPF ระบุว่ามูลค่าทางบัญชีต่อหุ้นอยู่ที่ 30.65 บาท ขณะที่ราคาหุ้นเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 65 ปิดที่ 23.80 บาท YTD ลดลง 6.67% ปัจจุบัน P/E ลงมาเหลือ 10.60 และ P/BV ลงมาที่ 0.78 และ ณ วันที่ 30 ก.ย.65 บริษัทฯ มีเงินสดคงเหลือจำนวน 2,229 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทประมาณการว่าจะมีเงินปันผลรับจากบริษัทย่อยในไตรมาส 4/65 และในช่วง 6 เดือนแรกของปี 66 จำนวน 9,500 ล้านบาท ดังนั้น จึงมีสภาพคล่องเพียงพอในการชำระหนี้ที่จะถึงกำหนดชำระในอีก 6 เดือนข้างหน้านับแต่วันที่ซื้อหุ้นคืนและมีเงินสดคงเหลือเพียงพอต่อการซื้อห้นคืนตามโครงการ
นอกจากนี้ CPF จัดตั้งบริษัทย่อยใหม่ 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท ซีพี เอฟ ฟู้ด เน็ตเวิร์ก จำกัด เพื่อประกอบธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ โดยมีบริษัท ซีพีเอฟ เทรดดิ้ง จำกัด (CPFT) ถือหุ้น 99.99% และบริษัท CP Norfolk (India) Private Limited เพื่อประกอบธุรกิจอาหารแปรรูป โดย Norfolk Foods (Private) Limited ถือหุ้น 60% และ CPF (India) Private Limited ถือหุ้น 40%