สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อวงการตลาดหุ้นตั้งแต่ต้นปี เมื่อบริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ALL แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กรณีผิดนัดชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้งวดที่ 5 ราว 10.6 ล้านบาท เนื่องจากขาดสภาพคล่อง มีกระแสเงินสดหมุนเวียนไม่พอ แม้อายุหุ้นกู้ มีประกันของ ALL ครั้งที่ 3/2564 จะครบกำหนดไถ่ถอนปี 2567
การผิดนัดชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ของ ALL ทำให้เกิดความกังวลว่า จะลามเป็นโดมิโนต่อบริษัทเอกชนรายอื่นๆที่มีการระดมทุนด้วยการออกหุ้น โดยเฉพาะกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่พบว่า ในปี 2566 จะมีหุ้นกู้ที่ครบกำหนดชำระสูงถึง 1.27 แสนล้านบาทจากจำนวนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชำระหนี้ทั้งหมด 6.51 แสนล้านบาทในปี 2566 รองจากกลุ่มไฟแนนซ์ที่ครบกำหนดชำระสูงสุดที่ 1.34 แสนล้านบาท
ท่ามกลางดอกเบี้ยขาขึ้น จะทำให้ต้นทุนการออกหุ้นกู้ เพื่อนำมาชำระหุ้นกู้ที่ครบกำหนดจะสูงขึ้น โดยต้นทุนการออกหุ้นโดยเฉลี่ย อายุ 5 ปี ณ วันที่ 3 มกราคม 2566 คือ
ส่วนหุ้นกู้อายุ 3 ปี
Q1/65ครบดีล1.6แสนล้าน
นายสงวน จุงสกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานธุรกิจตลาดเงิน ตลาดทุน ธนาคาร กรุงไทย หรือ KTB เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ระยะสั้นมีหุ้นกู้ที่จะครบกำหนด 1.56 แสนล้านบาทในไตรมาสแรก เฉพาะเดือนมกราคาจำนวน 39,911 ล้านบาท ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอาจจะส่งผลให้ภาคเอกชนต้องหาแหล่งเงินที่ต้นทุนถูกแทน
ประกอบกับช่วง 3 ไตรมาสแรกปีก่อน ตลาดแย่งกันออกหุ้นกู้ เพราะต้นทุนการออกหุ้นกู้ถูกลงตาม Yield Curve ของพันธบัตรรัฐบาลไทยที่ปรับขึ้นไปก่อนหน้า แม้ดอกเบี้ยนโยบายจะปรับขึ้นก็ตาม
ทั้งนี้ต้นทุนการออกหุ้นกู้ ในไตรมาส 4 ปี 2565 หุ้นกู้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือ A- อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยเหลือ 3.32% จากสิ้นไตรมาส 3 ปี 2564 อยู่ที่ 3.89% โดยปรับลดลง 0.57% หรือหุ้นกู้ BBB+ ดอกเบี้ยลดลง 0.7% มาอยู่ 4.33% จากสิ้นไตรมาส 3 ปี 2564 อยู่ที่ 5.03%
อย่างไรก็ตาม ปีนี้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น ดังนั้นภาคเอกชนอาจต้องหาแหล่งเงินที่ต้นทุนถูกลง หลังจากปี 2565 จะเห็นว่า ภาคเอกชนระดมทุน โดยการออกหุ้นกู้จำนวนมาก ทำให้ยอดคงค้างหุ้นกู้เพิ่มขึ้น 4.4 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นยอดคงค้างที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดในปีเดียวและทำให้ยอดคงค้างหุ้นกู้รวมเพิ่มเป็น 4.3 ล้านล้านบาท
ขณะที่อายุหุ้นกู้ไทยจะมีระยะเวลายาวขึ้น เฉลี่ย 3.3 ปีเพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2564 ที่มีอายุเฉลี่ย 2.8 ปี สะท้อนการล็อคต้นทุนที่ยาวขึ้นในรอบปีที่ผ่านมา
ปี65 ขอยืดหนี้ 24 ราย
ส่วนแนวโน้มการผิดนัดชำระหนี้นายสงวนกล่าวว่า เชื่อว่า สัญญาณการผิดนัดชำระหุ้นกู้รอบปี 2565 มี 24 บริษัท มียอดคงค้าง 100,130 ล้านบาท คิดเป็น 2.32%ต่อยอดคงค้างตลาดหุ้นกู้ทั้งระบบ 4.3 ล้านล้านบาท แต่หากตัดหุ้นกู้ของบมจ.การบินไทยกว่า 7.7 หมื่นล้านบาทออกไปจะเห็นว่า หุ้นกู้ผิดนัดชำระมีเพียง 2.85 หมื่นล้านบาท คิดเป็นเพียง 0.66% ของยอดคงค้างหุ้นกู้ทั้งระบบ
นางสาวกาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้บริหารงานวิจัย ศูนย์วิจัยกสิกรไทยกล่าวว่า ภาพรวมปี 2566 จะมีหุ้นกู้ทั้งระยะสั้นและระยะยาวที่จะครบกำหนดรวม 6.51 แสนล้านบาท ครอบคลุม 27 กลุ่มอุตสาหกรรม โดยไตรมาสแรก มีหุ้นกู้จะครบกำหนด 1.6 แสนล้านบาท ไตรมาส 2 รวม 169,846 ล้านบาท ไตรมาส 3 รวม 167,469 ล้านบาท และไตรมาส 4 รวม 149,636 ล้านบาท
ขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีหุ้นกู้ครบกำหนด 10 อันดับแรกคือ
SNW ขอยืดหนี้อีกราย
ล่าสุดมีรายงานว่า บริษัท สยามนุวัตร จำกัด(มหาชน) หรือ SNW บริษัทดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเลื่อนชำระหนี้หุ้นกู้จากที่ครบกำหนดปีนี้ออกไป 1 ปีคือ
แต่ SNW ต่างจากALL ตรงที่ ยังไม่ขาดสภาพคล่อง
ด้านบมจ. อารียา พรอพเพอร์ตี้ ยังไม่มีความเคลื่อนไหวว่า จะขอยืด ชำระหนี้หุ้นกู้ออกไปหรือไม่ หลังจากพบว่า หุ้นกู้ปี 2566 ทยอยครบกำหนดชำระได้แก่
ทั้งนี้หุ้นกู้ทั้งรุ่น 1 และ 2 บมจ.อารียา อยู่ระหว่างออกหุ้นกู้ 2,000 ล้านบาท เพื่อมาทดแทนหุ้นกู้ทั้ง 2 รุ่น ( Effective Date 11 ม.ค. 2566) 3. หุ้นกู้รุ่น A238A จำนวน 1,348.5 ล้านบาท ดอกเบี้ย 7% ครบกำหนด 11 ส.ค. 2566