บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ได้ออกและเสนอขายหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมหรือ Green Bond เป็นครั้งแรก มูลค่า 8,000 ล้านบาท เพื่อใช้ลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม รวมทั้งเสนอขายหุ้นกู้ทั่วไปอีก 12,000 ล้านบาทพร้อมกัน รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 20,000 ล้านบาท โดยเป็นการเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ โดยมีแผนจะนำเงินที่ได้ไปใช้ในการขยายธุรกิจ เป็นเงินทุนหมุนเวียนและชำระคืนหนี้เดิม
นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่บริษัทได้ออกเสนอขาย Green Bond โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเน้นการลงทุนในธุรกิจพลังงานหมุนเวียน และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยจะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ไปใช้ในการชำระคืนเงินลงทุนในโครงการ Borkum Riffgrund 2 ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งทะเลในประเทศเยอรมนี
ทั้งนี้ การออก Green Bond ในครั้งนี้ เป็นไปตามกรอบหลักเกณฑ์การระดมทุนเพื่อโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Financing Framework) และได้ผ่านการให้ความเห็นโดยผู้สอบทานภายนอกที่เป็นอิสระ (Second Party Opinion) คือ DNV Business Assurance Australia Ltd. โดยได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างมากจนบริษัทต้องเพิ่มมูลค่าเสนอขายเป็น 8,000 ล้านบาทจากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ที่ 5,000 ล้านบาท
นอกจาก Green Bond ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุนแล้ว การออกหุ้นกู้โดยรวมมูลค่า 20,000 ล้านบาทในครั้งนี้ ยังประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย โดยได้รับการตอบรับอย่างดีด้วยยอดจองซื้อสูงกว่าเป้าหมายของบริษัทเกินกว่า 2 เท่าจากนักลงทุน
นกู้ดังกล่าว เสนอขายแบ่งออกเป็น 5 ชุด ได้แก่
โดยเฉลี่ยอัตราดอกเบี้ยคงที่เท่ากับร้อยละ 3.28 และอายุเฉลี่ยหุ้นกู้เท่ากับ 5.6 ปี ซึ่งหุ้นกู้อายุ 5 ปีและ 7 ปี จำนวนรวม 8,000 ล้านบาทได้เสนอขายเป็นหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond)
บริษัทฯ มีแผนที่จะนำเงินจากการเสนอขายหุ้นกู้ดังกล่าว ไปใช้ในการชำระคืนเงินกู้จากสถาบันการเงิน และเพื่อใช้เป็น เงินทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจของบริษัทฯ โดยในส่วนของหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม บริษัทฯ จะนำเงินจากการเสนอขาย หุ้นกู้ไปใช้ในการชำระคืนเงินลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศเยอรมนี Borkum Riffgrund 2
ทั้งนี้บริษัทฯ ได้รับการ จัดอันดับความน่าเชื่อถือ ในระดับ “A+” แนวโน้ม “คงที่” และหุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับในระดับ “A” จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด บริษัทฯ ได้แต่งตั้งให้ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารทหารไทยธนชาต ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคาร สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ในครั้งนี้ซึ่งได้เปิดจองซื้อหุ้นกู้ในวันที่ 27-29 มีนาคม 2566 และได้ออกหุ้นกู้ในวันที่ 30 มีนาคม 2566
บริษัทฯ เชื่อว่าการสนับสนุนจากผู้ลงทุนในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งและ ศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่องในกลุ่มธุรกิจของบริษัทฯ โดยเฉพาะธุรกิจพลังงานหมุนเวียนที่จะขับเคลื่อนให้เกิดการปล่อยก๊าซ เรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์(Net Zero Greenhouse Gas Emissions)