นายธวัชชัย พิทยโสภณ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในฐานะรักษาการเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวถึงการดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษผู้กระทำผิดกรณีหุ้น "STARK" ว่า ที่ผ่านมาทาง ก.ล.ต. ไม่ได้นิ่งนอนใจในการดำเนินการ ตรวจสอบ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK โดยได้กล่าวโทษผู้กระทำผิด 10 รายไปแล้ว
อ่านเพิ่ม : ก.ล.ต. สั่งอายัดทรัพย์ 10 ราย คดีทุจริต STARK - ห้ามออกนอกประเทศ
โดยล่าสุดทาง ก.ล.ต. อยู่ระหว่างการขยายผลผู้กระทำความผิดอื่นๆ เพิ่มเติม ทั้งการสร้างราคา อินไซต์ โดยได้ประสานขอข้อมูลกับทาง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในการตรวจสอบข้อมูลการซื้อขาย ซึ่งหากพบผู้กระทำผิดเพิ่มเติมจะดำเนินการกล่าวโทษ รวมทั้งหากมีหลักฐานเพียงพอในการกล่าวโทษก็จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
สำหรับกรณีที่มีการตั้งข้อสังสัยว่าทำไมยังไม่มีดำเนินการใดๆ กับ ผู้สอบบัญชี ในเรื่องนี้ นายธวัชชัย ระบุว่า ขณะนี้การตรวจสอบหลักฐานในชั้นนี้ยังไปไม่ถึง แต่หากตรวจสอบพบว่า ผู้สอบบัญชีมีความผิด จะถูกดำเนินการตามขั้นตอนอย่างแน่นอน
ส่วนกรณี บริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด (PDITL) ที่เป็น 1 ใน 10 รายชื่อที่ถูกกล่าวโทษกล่าวโทษว่ามีความเชื่อมโยงเกี่ยวกับข้องกับ STARK ที่ปรากฏว่ามีการตกแต่งงบการเงินแบบแสดงรายการข้อมูลขายตราสารหนี้ และทำโดยทุจริตหลอกลวงอันเข้าข่ายเป็นความผิด ตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ 2535
ในเรื่องนี้แม้จะโดนกล่าวโทษ และอายัดทรัพย์สิน แต่ทางเฟ้ลปส์ ดอด์จ จะยื่นแผนฟื้นฟูกิจการ ยังคงสามารถดำเนินการได้ตามปกติ เพราะถือว่าเป็นคนละส่วนกันกับเรื่องที่ ก.ล.ต. ดำเนินการ
เนื่องจากเรื่องของการฟื้นฟูกิจการนั้น เป็นเรื่องมุ่งหมายการจัดการของธุรกิจให้เดินหน้าต่อไปได้ แต่การดำเนินการของทาง ก.ล.ต.นั้น เป็นการมุ่งเอาความผิดกับบุคคลกระทำเท่านั้น
อย่างไรก็ตามการอายัดทรัพย์สิน 180 วัน และห้ามผู้ถูกกล่าวโทษเดินทางออกนอกประเทศ 15 วัน ที่ได้ดำเนินการไปแล้วก่อนหน้านี้ ทาง ก.ล.ต. ยังสามารถยื่นขออำนาจศาลในการขยายระยะเวลาได้
ส่วนเรื่องที่มีกระแสข่าวว่า "ผู้ถูกกล่าวโทษบางรายได้หนีออกประเทศไปแล้ว" จะเป็นหน้าที่ของพนักงานสืบสวน ที่ต้องเร่งติดตามตัวผู้กระทำผิดต่อไป