นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เปิดเผยถึง กองทุนไทยเพื่อความยั่งยืน (Thailand ESG Fund) โดยคาดว่าจะสามารถเสนอขายได้ในวันที่ 8 ธันวาคมนี้ เชื่อว่าจะมีเงินทุนไหลเข้าทั้งหมดประมาณ 1 หมื่นล้านบาท
โดยเชื่อว่า TESG จะได้รับการตอบรับจากนักลงทุน เพราะมีความคล้าย LTF รวมถึงเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลนั้น เป็นสิ่งที่กำลังได้รับการให้ความสนใจ ซื้อกองทุนนี้ เป็นการซื้ออนาคต ทำประโยชน์ให้สิ่งแวดล้อมและสังคมมากขึ้น
ขณะที่บริษัทจดทะเบียนเริ่มเห็นถึงความสำคัญเรื่องโลกร้อน คาร์บอนเครดิต ช่วยเหลือสังคม กลายเป็นแรงกระตุ้นให้ปรับเปลี่ยนเพื่อให้เข้าเกณฑ์เงื่อนไขมากขึ้นแน่นอน
ทั้งนี้การลงทุนในกองทุน Thailand ESG Fund ถือว่าเป็นจังหวะที่เหมาะสม เพราะราคาหุ้นในปัจจุบันกำลังน่าสนใจและอัพไซด์ได้อีกมาก น่าจะให้ผลตอบแทนได้ดีในระยะยาว แต่ในระยะสั้นยังคงผันผวนอยู่ ต้องรอถึงกลางปีหน้าถึงจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นอีกครั้ง
สำหรับแนวทางการพิจารณาปรับเกณฑ์ระยะเวลาส่งมอบหลักทรัพย์เป็นภายในวันที่ 2 ถัดจากวันขายหลักทรัพย์ (T+2) นั้น ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะสร้างสภาพคล่องในตลาดได้มากขึ้น ลดระยะเวลาและต้นทุนของนักลงทุน สอดรับเทคโนโลยีการเงินยุคใหม่
อย่างไรก็ตาม ในปีหน้าเศรษฐกิจโลกยังน่าจะอยู่ในระดับทรงตัว เช่น ยุโรป อังกฤษ อเมริกา น่าจะยังอ่อนแอเสี่ยงพบกับภาวะถดถอย อาจะส่งผลต่อการส่งออกไทย ทำให้ภาคการผลิตปรับตัวลดลง ซึ่งเป็นตัวฉุดจีดีพีไทยในปัจจุบัน จนกระทั่งกลางปีหน้าก็จะปรับตัวดีขึ้น
ทั้งนี้ มาตรการกระตุ้น เป็นเรื่องปกติของรัฐบาลต้องทำอยู่แล้ว แต่ต้องมีระดับที่เหมาะสม ซึ่งนั่นคือคำถามใหญ่ เพราะประเด็นที่โต้แย้งไม่ใช่เรื่องที่ว่า ควรกระตุ้นหรือไม่ เพราะควรกระตุ้นแน่นอน แต่จะมากน้อยเพียงใด และทำอย่างไรให้เหมาะสม