ส่องงบ"อิตาเลียนไทย"หนี้ต้องใช้คืนใน 1 ปีพุ่ง 2.64 หมื่นล้าน แบงก์อ่วมสุด

08 ม.ค. 2567 | 01:58 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ม.ค. 2567 | 14:55 น.

ส่องงบ"บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ ( ITD)" เผยหนี้สินต้องชำระคืนใน 1 ปี พุ่ง 2.64 หมื่นล้าน หนักสุด"เงินกู้แบงก์ 2.32 หมื่นล้าน"เหตุสภาพคล่องตึงตัว พบเงินสดและเงินทุนดำเนินการมีแค่ 9.6 พันล้าน ขณะที่แผนขายทรัพย์สิน ยังไม่ชัดเจน

จากสถานการณ์ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ ( ITD) ประสบปัญหาสภาพคล่อง แม้ว่าก่อนหน้านี้จะได้รับเงินช่วยเหลือจากธนาคารพาณิชย์จำนวนหนึ่ง เพื่อเติมสภาพคล่องและใช้เพื่อชำระหนี้ดอกเบี้ยหุ้นกู้ที่ครบกำหนดในช่วงต้นเดือนธ.ค. 2566  ( รุ่น ITD24DA - รุ่น ITD24DB) อย่างไรก็ดีในวันที่  15 ก.พ.67 ที่จะถึงนี้ หุ้นกู้ ITD ในรุ่น "ITD242A" จะครบกำหนดชำระวงเงิน 2,000 ล้านบาท ซึ่งวันนี้ (8 ก.พ.67 ) คาดว่า "ธนาคารกรุงศรีอยุธยา"ในฐานะตัวแทนผู้ถือหุ้นกู้ของอิตาเลียนไทย จะส่งหนังสือแจ้งเจ้าหนี้ผู้ถือหุ้นกู้ เพื่อขอเลื่อนการจ่ายเงินต้นหุ้นกู้ทุกรุ่นออกไปอีก 2 ปี แต่ในระหว่างทางบริษัทฯ ยังจ่ายดอกเบี้ยให้ตามปกติ 

“ฐานเศรษฐกิจ” ตรวจสอบพบว่า หุ้นกู้ ITD ทั้งสิ้น 5 รุ่น มียอดหนี้คงค้างรวม  14,455 ล้านบาท โดยมีหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชำระปี 2567 รวม 5,670 ล้านบาท แบ่งเป็น หุ้นกู้รุ่น ITD24A ที่จะครบกำหนดชำระในวันที่ 15 ก.พ.67 วงเงิน 2,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 5.25% และหุ้นกู้ที่จะครบชำระในวันที่ 4 ธ.ค.67 จำนวน 2 รุ่น คือ ITD24DA วงเงิน 2,455 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 5.8% และหุ้นกู้รุ่น ITD24DB วงเงิน 1,215 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 5.0%

ส่องงบ\"อิตาเลียนไทย\"หนี้ต้องใช้คืนใน 1 ปีพุ่ง 2.64 หมื่นล้าน แบงก์อ่วมสุด


ส่องงบการเงิน ITD เงินทุนต่อหนี้สินพุ่งแตะ 9.2%

ทั้งนี้ผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม 1.19 แสนล้านบาท ( เป็นสินทรัพย์หมุนเวียน 6.48 หมื่นล้านบาท และสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน 5.46 หมื่นล้านบาท )  มีหนี้สินรวม 1.08 แสนล้านบาท และมีรายได้รวม 5.26 หมื่นล้านบาท กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 6 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 54% YoY โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 379.05 ล้านบาท

ในส่วนของภาระดอกเบี้ยของบริษัท ฯ เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 2.2 พันล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 หรือเพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเกิดจากภาระหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้น  โดยภาระหนี้ที่ปรับปรุงแล้วของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 4.4 หมื่นล้านบาท และ ณ เดือนกันยายน 2566 อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อหนี้สินทางการเงินเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 9.2% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 จากระดับ 5.1% ในปี 2565


 

ข้อมูลจากทริสเรทติ้ง ซึ่งได้ประเมินอันดับความน่าเชื่อถือของตัวองค์กรและหุ้นกู้"อิตาเลียนไทย"เมื่อกลางเดือน ธ.ค.66 ที่ผ่านมา ได้ตั้งข้อสังเกตุผลการดำเนินงานอิตาเลียนไทย ว่ารอบ 9 เดือนปี 2566 แม้จะปรับตัวดีขึ้น แต่บริษัทก็ยังคงมีข้อจำกัดภายใต้ข้อกำหนดทางการเงินเป็นอย่างมาก ซึ่งตามข้อกำหนดทางการเงินที่สำคัญของหุ้นกู้และเงินกู้ยืมจากธนาคารนั้น ระบุให้บริษัทต้องรักษาอัตราส่วนภาระหนี้ที่มีดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นที่ระดับไม่เกิน 3 เท่า ซึ่งบริษัทมีอัตราส่วนดังกล่าวอยู่ที่ระดับ 2.89 เท่า ณ สิ้นเดือนกันยายน 2566 ลดลงเล็กน้อยจากระดับ 2.97 เท่า ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2565

หนี้สินมีกำหนดต้องใช้คืนใน 1 ปี ทะลุ 2.64 หมื่นล้าน 

นอกจากนี้ บริษัทยังมีสภาพคล่องที่ตึงตัวอีกด้วย โดย ณ เดือนกันยายน 2566 แหล่งสภาพคล่องของบริษัทประกอบด้วย 1.เงินสดในมือจำนวน 4.6 พันล้านบาท 2.วงเงินสินเชื่อจากธนาคารที่ยังไม่ได้เบิกใช้อีกจำนวน 8.2 พันล้านบาท และ 3.เงินทุนจากการดำเนินงานคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 5 พันล้านบาทต่อปี ( 1+2+3 รวม 1.78 หมื่นล้าน )

ในขณะที่บริษัทมีภาระหนี้ที่จะครบกำหนดชำระในอีก 12 เดือนข้างหน้าจำนวนทั้งสิ้น 2.64 หมื่นล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันจำนวน 2.0 พันล้านบาท  เงินกู้จากธนาคารจำนวน 2.32 หมื่นล้านบาท และหนี้สินจากสัญญาเช่าและหนี้สินทางการเงินอื่น ๆ อีกจำนวน 1.2 พันล้านบาท ส่วนค่าใช้จ่ายเพื่อการลงทุนประจำปีนั้นคาดว่าจะอยู่ที่จำนวนทั้งสิ้นประมาณ 3.0 พันล้านบาท

นอกจากนี้แผนการขาย"สินทรัพย์ที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก"ของบริษัทออกไป เช่น โรงงานปูนซีเมนต์ และหุ้นที่ถือในเหมืองแร่โปแตซนั้น ยังอยู่ในระหว่างดำเนินการ ซึ่งกำหนดเวลาการทำธุรกรรมดังกล่าวก็ยังไม่มีความแน่นอน 

"เมื่อพิจารณาจากแหล่งสภาพคล่องของบริษัทแล้ว คาดว่าบริษัทจำเป็นจะต้องต่ออายุเงินกู้ยืมที่ใกล้หมดอายุส่วนใหญ่ออกไป (Refinance) เพื่อที่จะรักษาสภาพคล่องเอาไว้ให้เพียงพอและเพื่อใช้เป็นเงินทุนในโครงการก่อสร้างต่าง ๆ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาจากสภาวะตลาดตราสารหนี้ที่ไม่เอื้ออำนวยแล้ว จึงคาดว่าบริษัทจะเผชิญกับความยากลำบากในการออกหุ้นกู้ชุดใหม่เพื่อนำไปใช้ทดแทนหุ้นกู้ชุดเดิม นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาจากอัตราส่วนหนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อนต่อหนี้สินรวมของบริษัท ณ สิ้นเดือนกันยายน 2566 ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็น 55.8% จาก 49.8% ณ สิ้นปี 2565 ซึ่งเกินกว่าเกณฑ์ที่ระดับ 50% แล้ว " ทริสเรทติ้ง ระบุ

อนึ่งเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.66 ทริสเรทติ้ง ประกาศลดอันดับเครดิตองค์กร “บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์” ( ITD ) เป็น “BB+” จาก “BBB-” และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน เป็น “BB” จาก “BBB-” แนวโน้ม “Negative” สะท้อนสภาพคล่องตึงตัว และภาระหนี้สูงขึ้น