MQDC จ่ายหนี้หุ้นกู้ 9,704 ล้าน ที่ครบกำหนดชำระ ม.ค. 67 หมดแล้ว

29 ม.ค. 2567 | 08:10 น.

MQDC เผยจ่ายหนี้หุ้นกู้ 2 ชุดที่ครบกำหนดชำระเดือน มกราคม 2567 วงเงินรวม 9,704 ล้านบาท ทั้งหมดแล้วเป็นที่เรียบร้อย

หลังจากบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำระดับนานาชาติ ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2567 “MQDC ยืนยันได้เตรียมความพร้อมการจ่ายคืนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดในเดือนมกราคม 2567 ได้ทั้งหมด”

 

ล่าสุด 29 มกราคม 2567 รายงานข่าวจาก MQDC เปิดเผยว่า บริษัทได้ชำระหนี้หุ้นกู้ ที่ครบกำหนดชำระในเดือนมกราคม จำนวน 9,704 ล้านบาท ทั้งหมดแล้วเป็นที่เรียบร้อย ประกอบด้วย

  • หุ้นกู้ชุดที่ 1: MQDC241G กำหนดวันที่ 22 มกราคม 2567 เป็นจำนวน 4,100 ล้านบาท
  • หุ้นกู้ชุดที่ 2: MQDC241A MQDC241B MQDC241C MQDC241D MQDC241E MQDC241F กำหนดวันที่ 29 มกราคม 2567 เป็นจำนวน 5,604 ล้านบาท

โดย MQDC ยืนยันว่าบริษัทยังคงดำเนินกิจการเป็นอย่างดี โดยโครงการที่เป็นโครงการใหญ่และเป็นโครงการ flagship ของ MQDC อย่าง The Forestias นั้น จะเสร็จสิ้นในปี 2567 นี้ และจะมีการโอนกรรมสิทธิ์ตั้งแต่ต้นปีอย่างต่อเนื่อง

โบรกมองตลาดหุ้นกู้ยังน่าสนใจ อย่าวิตกเกินเหตุ

นายสุโชติ ถิรวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ไม่อยากให้นักลงทุนมีความกังวลใจต่อการลงทุนในตลาดหุ้นกู้มากจนเกินไป แม้ที่ผ่านมาจากมีหลาย บจ. ที่ออกมาขอเลื่อนระยะเวลาในการจ่ายหุ้นกู้คืน  แต่ก็ไม่ใช่ บจ. ทั้งหมดที่มีการออกหุ้นกู้ และมองว่าเป็นเพียงเรื่องเฉพาะกิจการของบริษัทนั้นๆ เพียงเท่านั้น บจ. ที่ธุรกิจยังดี ผลการดำเนินงานแข็งแกร่ง มีกระแสเงินสดที่ดีท็ยังมีอยู่

ด้านนายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด มองว่า ความน่าสนใจในการลงทุนในตลาดหุ้นกู้นั้นยังคงมีอยู่ แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาจะมีกระแสการขอเลื่อนชำระหุ้นของของหลาย บจ. มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลใจไปมากและไม่กล้าที่จะลงทุนให้ตลาดหุ้นกู้ มองว่าการลงทุนนั้นยังคงทำได้

เพียงแต่จะลงทุนให้หุ้นกู้ตัวไหนอาจต้องเข้าไปดูงบในเชิงลึกว่าสถานะการเงินมีความแข็งแกร่งหรือไม่ มีกระแสเงินสดในมือมากน้อยแค่ไหน เพียงพอที่จะชำระหุ้นกู้คืน หรือจ่ายปันผลหรือไม่ ยิ่งในช่วงภาวะแย่ๆ บจ. ยิ่งต้องมีการยอมจ่ายปันผลในระดับพรีเมี่ยมมากขึ้น ซึ่งการลงทุนคงต้องเลือกใน บจ. ที่มีธุรกิจที่ดี และมีเรตติ้งที่ดี เพื่อป้องกันความเสี่ยง