จากเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ได้รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แจ้งขอเลื่อนการจัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ทั้ง 7 รุ่น ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 ออกไปไม่มีกำหนด โดยจะแจ้งกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนฯ และวันประชุมใหม่ให้ทราบอีกครั้ง
ล่าสุดวันนี้ (17 ก.พ.67) กลุ่มผู้เสียหายหุ้นกู้ JKN ได้ออกแถลงการณ์ ถึง นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตราดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ระบุว่า
จากการที่บริษัท เจเคเอ็น โกลด์บอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ ณ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่อขอกำหนดวันประชุมหุ้นกู้ทุกรุ่นในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 และต่อมาในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์เพื่อขอเลื่อนการประชุมออกไปนั้นโดยยังไม่แจ้งกำหนดวันเวลาให้ทราบ
นอกจากนี้ ทางกลุ่มผู้เสียหายได้ส่งจดหมายถึง ก.ล.ต. ณ วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 เรียกร้องให้ตรวจสอบรายการที่เกี่ยวข้องกับ "การอนุมัติการทำรายการขายหุ้นบริษัท JKN Legacy ไปยัง JKN Global Content(Singapore) และต่อมามีการตกลงขายหุ้น 50% ใน JKN Legacy ให้นักลงทุนแม็กซิโก" ว่าได้ปฏิบัติตามอำนาจและหน้าที่ของกรรมการบริษัทตามที่ระบุในรายงานแบบ 56-1 ที่ "กำหนดให้ต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัท"หรือ ไม่ ?
จากพฤติกรรมที่ได้ระบุในจดหมายฉบับนี้รวมถึงความไม่ชัดเจนในการชี้แจงหลายประเด็นที่ทางตลาดหลักทรัพย์ได้สอบถามไปยังบริษัท บริษัท เจ เคเอ็น โกบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN โดยผู้ถือหุ้นกู้ได้ตระหนักถึงความไม่น่าเชื่อถือและความไม่น่าไว้วางใจ
กลุ่มผู้ถือหุ้นกู้ จึงขอยกเรียกร้องให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตราดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต. )ได้ดำเนินการตามข้อเรียกร้องที่ทางกลุ่มได้ยื่นหนังสือถึง ณ วันที่ 13 พฤศจิกายน 2566 ความโดยรวมว่า
1.เร่งให้มีการตรวจสอบข้อมูลทางการเงินเชิงลึก ของ บริษัท เจ เคเอ็น โกบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นกรณีพิเศษ ( SPECIAL AUDIT ) โดยทันที
2.ขอให้มีการพิจารณา เร่งการอายัด ทรัพย์สินของ บริษัท, กรรมการ, และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และขอให้มีการห้ามมิให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เพื่อป้องการการโยกย้ายทรัพย์สินอันมิควรเกิดขึ้น ถ้ามี หากยังไม่มีความชัดเจนในการดำเนินการดังกล่าวทางกลุ่มจะยกระดับการดำเนินการขั้นตอนต่อไป
"ผู้ถือหุ้นกู้ขอวิงวอนให้ ก.ล.ต โปรดเข้าใจความจำเป็นที่เร่งด่วนที่จะหยุดความเสียหายต่อผู้ถือหุ้นกู้และความเชื่อมั่นต่อตลาดตราสารทุนและตราสารหนี้ไทย"