TIDLOR โชว์งบปี66 รายได้โต 24% กวาด 1.9 หมื่นล้าน ดันกำไรทะลุ 3.7 พันล้าน

28 ก.พ. 2567 | 01:39 น.
อัพเดตล่าสุด :28 ก.พ. 2567 | 03:02 น.

บมจ.เงินติดล้อ (TIDLOR) รายงานผลดำเนินงานปี 66 ทำรายได้กว่า 1.89 หมื่นล้าน โต 24% กำไรสุทธิ 3.79 พันล้าน เหตุรายได้ดอกเบี้ยรับและรายได้ค่าฟีโตพุ่ง 24% จ่ายปันผลเป็นเงินสดและหุ้น ขึ้น XD วันที่ 24 เม.ย.นี้

บริษัทเงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ  TIDLOR รายงานผลดำเนินงานประจำปี 2566 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจำนวน 3,790.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.1% (YoY) จากผลการดำเนินงานในปี 2565 ที่ 3,640.2 ล้านบาท 

ด้านรายได้รวมอยู่ที่ 18,972.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.2% (YoY) จากการขยายตัวของธุรกิจ โดยรายได้หลักมาจากรายได้ดอกเบี้ยรับจากเงินให้กู้ยืมและลูกหนี้ตามสัญญาเช่าซื้อที่เพิ่มขึ้น 24.0% (YoY) และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการที่เพิ่มขึ้น 24.7% (YoY) ในขณะที่มีค่าใช้จ่ายรวมจำนวน 14,228.4 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารซึ่งสอดคล้องกับการขยายตัวของฐานลูกค้าและธุรกิจ อย่างไรก็ตามอัตราส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานต่อรายได้ในปี 2566 มีการปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 54.9% จากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ระดับ 56.4% สะท้อนถึงการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ 

 

ณ สิ้นปี 2566 บริษัทมีพอร์ตสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 97,456.5 ล้านบาท ขยายตัว 19.9% (YoY) โดยคุณภาพพอร์ตสินเชื่อรวม มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (%NPL) อยู่ที่ 1.45% ปรับตัวลดลงจาก 1.58% ณ สิ้นปี2565 ในขณะที่ธุรกิจนายหน้า
ประกันวินาศภัยยังคงการเติบโตต่อเนื่อง โดยเบี้ยประกันวินาศภัยรวมสำหรับปี 2566 มีมูลค่า 8,743.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.3% (YoY)

คณะกรรมการบริษัท ฯ เตรียมจ่ายปันผลจากงวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค. 66 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 66 โดยจ่ายเป็น

1.หุ้นสามัญของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 104,054,826 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 3.70 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯในอัตรา 27 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล รวมมูลค่าทั้งสิ้นไม่เกินประมาณ 385 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล 0.1370 บาทต่อหุ้น

2.ปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.2698 บาท รวมเป็นจำนวนเงินไม่เกินประมาณ 758 ล้านบาท 

กำหนดวันขึ้นเครื่องหมาย XD (วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล) ใน วันที่ 24 เม.ย.2567 และกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 14 พ.ค. 2567

 

 

ตั้งเป้าเติบโตธุรกิจปี 67 ที่ระดับ 10-20%

นายปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR กล่าวว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปี 2566 ที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงผลลัพธ์ของกลยุทธ์การลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพอย่างธุรกิจนายหน้าประกัน และผลลัพธ์จากการลงทุนด้านเทคโนโลยีซึ่งสะท้อนผ่านความสำเร็จของบัตรติดล้อ และการพัฒนาฟีเจอร์การใช้งานในแอปพลิเคชันเงินติดล้อที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และจากสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่เริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น บริษัทจะยังคงมุ่งเน้นการลงทุนด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาว ซึ่งปัจจุบันเราเริ่มเห็นผลตอบแทนจากการลงทุนในช่วงที่ผ่านมา ผ่านประสบการณ์ที่ดีขึ้นของลูกค้าและผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งแม้จะอยู่ในช่วงสภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ก็ตาม และที่สำคัญมากไปกว่านั้น

"ในปีที่ผ่านมาเรายังคงเดินหน้าลงทุนอย่างต่อเนื่องและยังได้ขยายธุรกิจใหม่ๆ อย่างแบรนด์ “heygoody” โบรกเกอร์ประกันออนไลน์ รวมถึงการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานการดำเนินธุรกิจหลักของเราอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เรามีพอร์ตสินเชื่อคงค้างเฉลี่ยต่อสาขาสูงถึง 58 ล้านบาท" 

นอกจากนี้บริษัท ฯ ยังเป็นหนึ่งในสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร (Non-Bank) เพียงไม่กี่แห่งที่ยังคงมีวงเงินสินเชื่อที่เพียงพอ และมีฐานะทางการเงินที่มั่นคงจากการตั้งสำรองที่เพียงพอ นั่นทำให้เรายังคงสามารถสร้างโอกาสทางการเงินและส่งเสริมการเข้าถึงประกันให้ประชาชน ตามเจตนาที่เรายึดมั่นได้อย่างต่อเนื่อง

สำหรับเป้าหมายการดำเนินงานในปี 2567 นี้ บริษัทตั้งเป้าการเติบโตที่ระดับ 10-20% ทั้งธุรกิจสินเชื่อและนายหน้าประกันวินาศภัย