“KCC” โชว์ผลประกอบการปี 66 กำไรสุทธิ 88.65 ล้านบาท

01 มี.ค. 2567 | 03:52 น.
อัปเดตล่าสุด :01 มี.ค. 2567 | 03:59 น.

“KCC” โชว์กำไรสุทธิปี 66 กว่า 88.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.77% หลังลุยลงทุนซื้อหนี้ NPL เข้าพอร์ตกว่า 600 ล้าน ดันรายได้โตทุกด้าน

 นายทวี กุลเลิศประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริหารสินทรัพย์ ไนท คลับ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ KCC ผู้ดำเนินธุรกิจจัดหาและบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพและธุรกิจบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขายและการปรับปรุงทรัพย์สินรอการขายเพื่อจำหน่าย เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทปี 2566 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 88.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.77% เมื่อเทียบงวดเดียวกันของปีก่อน โดยสาเหตุเกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากดอกเบี้ยสูงขึ้นจากการขยายพอร์ตลูกหนี้ NPL ของบริษัท รวมถึงรายได้จากการรับชำระหนี้ และรายได้จากการขาย NPA ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน

รวมทั้งบริษัทยังมีรายได้จากการให้บริการบริหารสินทรัพย์เพิ่มขึ้น แม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายจากการปรับโครงสร้างเป็นโฮลดิ้ง จำนวน 6.7 ล้านบาท แต่จะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวเท่านั้นขณะที่งวดไตรมาส 4 ปี 2566  มีรายได้จากการดำเนินงานสุทธิรวม 57.22 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

 ทั้งนี้ ปี 2566 บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ 191.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.72 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 12.15 % เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากบริษัทมีรายได้จากทั้งดอกเบี้ยรับจากลูกหนี้ กำไรจากการรับชำระหนี้ กำไรจากการขาย NPA และรายได้จากจากการให้บริการบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพเพิ่มขึ้น แม้ว่าในปี 2566 บริษัทจะมีค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจากการออกหุ้นกู้เพิ่มขึ้นเพื่อนำเงินไปจัดหาและลงทุนในหนี้ NPL

 “ในรอบปี 2566 มีประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้น คือ บริษัทได้รับโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพใหม่ จำนวน 606.82 ล้านบาท ซึ่งเป็นลูกหนี้ประเภทสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อธุรกิจ โดยลูกหนี้ทั้งหมดเป็นลูกหนี้ที่มีหลักประกันและบริษัทได้ออกหุ้นกู้จำนวน 900 ล้านบาท เพื่อซื้อลูกหนี้พอร์ตใหม่, จ่ายคืนหุ้นกู้ และเพื่อเป็นเงินหมุนเวียนบางส่วน ขณะที่มีเงินรับจำนวน 305.91 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 8.53 %จากปีก่อน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KCC กล่าว 

นายทวี กุลเลิศประเสริฐ

ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวมเท่ากับ 2,305.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2565 จำนวน 579.41 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 33.56 % โดยมีสาเหตุหลักมาจาก เงินให้สินเชื่อจากการซื้อลูกหนี้และดอกเบี้ยค้างรับสุทธิเพิ่มขึ้น ขณะที่ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 บริษัทฯ มีส่วนของเจ้าของเท่ากับ 1,170.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2565 จำนวน 75.45 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิจากการดำเนินงานในงวดจำนวน 88.65 ล้านบาท

นายทวี กล่าวถึงความคืบหน้าในการปรับโครงสร้างเป็นบริษัท ไนท คลับ แคปปิตอล โฮลดิ้ง ว่าเมื่อเดือน ธ.ค. 2566 บริษัทฯ ได้ดำเนินการยื่นคำขอให้แก่ ก.ล.ต. เรื่องการปรับโครงสร้างบริษัท เพื่อขยายขอบเขตและเพิ่มโอกาสในการดำเนินธุรกิจของบริษัทแล้วซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอน.