วันนี้ ( 9 เม.ย.67) บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด(มหาชน) หรือ CPAXT ได้ส่งหนังสือถึงผู้ถือหุ้นกู้ แจ้งว่า เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมาที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ของบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติการควบบริษัทระหว่างบริษัทฯ กับบริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด (เอก-ชัยฯ) ภายใต้บทบัญญัติของพระราชบัญญัติบริษัทมหาชน จำกัด พ.ศ. 2535 (รวมที่ได้แก้ไขเพิ่มเติม) (“พ.ร.บ. บริษัทมหาชน”) (“ธุรกรรมการควบบริษัท”)
ธุรกรรมการควบบริษัทในคร้ังนี้มีจุดมุ่งหมายสำคัญ เพื่อปรับโครงสร้างทางธุรกิจภายในกลุ่มบริษัทฯ ในการผนึกกำลังของกลุ่มธุรกิจค้าส่งและกลุ่มธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทย ภายใต้บริษัทใหม่ที่เกิดจากธุรกรรมการควบบริษัท เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารธุรกิจ และลดความซับซ้อนของโครงสร้างการถือหุ้นและโครงสร้างองค์กรภายในกลุ่มบริษัทฯ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจดัการกิจการและการบริหารทรัพยากรรวมถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มจากการผนึกกำลังทางธุรกิจ ตลอดจนเพิ่มโอกาสในการดึงดูดบุคลากร รวมทั้งเป็นการสร้างโอกาสเติบโตของกลุ่มบริษทั ฯ ในอนาคต
ทั้งนี้ภายหลังธุรกรรมการควบบริษัทแล้วเสร็จ บริษัทฯ และ เอก-ชัยฯ จะสิ้นสภาพการเป็นนิติบุคคล และบริษัทใหม่ที่เกิดจากธุรกรรมการควบบริษัทจะได้ไปทั้งทรัพย์สิน หนี้ สิทธิ หน้าที่ รวมถึงความรับผิดชอบทั้งหมดของบริษัทฯและเอก-ชัยฯ โดยผลของกฎหมาย ดังนั้น บรรดาหน้าที่และความรับผิดทั้งปวงของบริษัท ที่มีอยู่ต่อท่านตามข้อกำหนดว่า ด้วยสิทธิและหน้าที่ของผู้ออกหุ้นกู้และผู้ถือหุ้นกู้สำหรับหุ้นกู้ (“ข้อกำหนดสิทธิ”)และสัญญาที่เกี่ยวข้องจะยังคงมีอยู่และตกเป็นหน้าที่และความรับผิดของบริษัทใหม่โดยผลของกฎหมาย
โดยหนังสือฉบับนี้ บริษัทฯ จึงขอแจ้งให้ท่านทราบถึง มติของที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ซึ่งอนุมัติธุรกรรมการควบบริษัท และกำหนดเวลาให้คัดค้านธุรกรรมการควบบริษัทภายใน 2 เดือนนับแต่วันที่ท่านได้รับหนังสือแจ้งมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นฉบับนี้ ตามมาตรา 147 ประกอบมาตรา 141 แห่ง พ.ร.บ. บริษัทมหาชน
ทั้งนี้การที่ท่านไม่คัดค้านธุรกรรมการควบบริษัทจะไม่ส่งผลกระทบต่อหุ้นกู้ของบริษัทฯ ที่ท่านถืออยู่ โดยท่านจะยังคงได้รับชำระดอกเบี้ยและเงินต้น รวมถึงมีสิทธิอื่น ๆ ตามที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดสิทธิต่อไปเช่นเดิม คลิกอ่านเพิ่ม
ทิสโก้คงแนะนำ"ซื้อ" ให้ราคาเป้าหมาย 36 บาท
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ คาดผลประกอบการ CPAXT ใน Q1/67 ที่ 2.26 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% YoY ผลประโยชน์จากการรวมกิจการจะปรากฏในครึ่งหลังปีนี้
คาดว่า CPAXT จะรายงานการเติบโตของกำไรสุทธิเมื่อเทียบ YoY ได้ดี โดยได้แรงหนุนจากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ลดลง และรายได้ที่ขยายตัว แม้จะมีแรงกดดันด้านต้นทุนจากการขยายธุรกิจ O2O ของ MAKRO โดยปัจจัยขับเคลื่อนกำไรระยะยาวสามประการของบริษัทได้แก่ การขยายอัตรากำไรขั้นต้นผ่านสินค้าสดและพรีเมี่ยม ผลประโยชน์จากการรวมกิจการ และการเพิ่มขึ้นของศูนย์กระจายสินค้าใหม่ๆ น่าจะสะท้อนในผลประกอบการใน 2H24F อย่างไรก็ตาม เราคาดการณ์กำไรสุทธิใน 1Q24 ที่ 2.26 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% YoY แต่ลดลง 21% QoQ
MAKRO ยังคงเผชิญแรงกดดันจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร แม้คาดว่าอัตราการเติบโตของยอดขายต่อสาขาเดิมน่าจะทรงตัว
คาดว่าธุรกิจค้าส่งจะรายงานยอดขายสาขาเดิมเติบโต 2.5% ซึ่งเป็นระดับปกติที่เห็นในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมา ผลกระทบจากการลดลงของราคาสินค้าปศุสัตว์น่าจะจำกัดมากกว่าไตรมาสก่อนหน้า ยอดขายสาขาเดิมในไตรมาสนี้ดูเหมือนจะต่ำกว่าเป้าหมายการเติบโตระดับกลางหลักเดียวของบริษัทสำหรับปี 2024 เป็นเล็กน้อย สำหรับอัตรากำไรขั้นต้น เราคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 10 bps ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายสิ้นปีของบริษัท อย่างไรก็ตาม การขยายธุรกิจ O2O ภายใต้ MAKRO น่าจะยังคงก่อแรงกดดันต่อค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อไป
LOTUS มีการเติบโตของกำไรที่น่าตื่นเต้น แต่การขยายตัวของอัตรากำไรขั้นต้นค่อนข้างอ่อนแอ
บล.ทิสโก้ คาดว่าธุรกิจค้าปลีกจะรายงานยอดขายสาขาเดิมเติบโตรวม 6.4% โดยได้แรงหนุนมากกว่าจากสาขาในมาเลเซีย (8%) เมื่อเทียบกับสาขาในไทย (6%) ระดับการเติบโตที่คาดการณ์นี้สอดคล้องกับเป้าหมายสำหรับปี 2024 อย่างไรก็ตาม คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาสนี้จะทรงตัว เนื่องจากธุรกิจในไทยมีอัตรากำไรที่แข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อยถูกหักกลบด้วยอัตรากำไรที่อ่อนแอลงของธุรกิจในมาเลเซีย (เนื่องจากความพยายามในการรักษาส่วนแบ่งทางการตลาด) แม้บริษัทตั้งเป้าขยายอัตรากำไรขั้นต้น 50 bps สำหรับปี 2024 แต่เชื่อว่ายังมีช่องทางในการขยายอัตรากำไรมากในช่วง 2H ด้วยการขยายธุรกิจสินค้าสดในรูปแบบร้านขนาดเล็ก อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าภาพรวมของธุรกิจศูนย์การค้าน่าจะทรงตัว QoQ
คงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ CPAXT โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 36.00 บาท