ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศมีกำลังซื้ออ่อนแอ ดีเวลอปเปอร์ ต่างเร่งเครื่องเจาะตลาดต่างชาติมากขึ้น โดยไตรมาส3ของปีนี้ พบว่า10ประเทศ โอนกรรมสิทธิ์ ห้องชุดเพิ่มมากขึ้นทั้งจำนวนและมูลค่า ขณะ9เดือนหรือ3 ไตรมาส มูลค่ากลับลดลง
สะท้อนจากนาย"กมลภพ วีระพละ" กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผยว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ในภาพรวม โดย เฉพาะห้องชุดของชาวต่างชาติ พบว่า การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของชาวต่างชาติ ไตรมาส 3 ปี 2567 มีจำนวน 3,756 หน่วย เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 11.6 และมีมูลค่าการโอน 18,571 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.9
ขณะที่การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของชาวต่างชาติ 3 ไตรมาสแรกของปี 2567 หรือ9เดือน มีจำนวน 11,036 หน่วย เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 3.1 แต่มีมูลค่าการโอนลดลง 1.5% อยู่ที่ 51,458 ล้านบาท
โดยกลุ่มหลักจากจีน และ รัสเซีย แม้จะมีสัดส่วนการโอนห้องชุดมากในอันดับต้น ๆ แต่มีจำนวนและมูลค่าลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่เมียนมาและไต้หวัน มีจำนวนหน่วย และมูลค่าเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ เมื่อ พิจารณา หน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ จีนลดลง 12.1% รัสเซียลดลง 16.8% รวมถึงมูลค่าจีนลดลง 18.3% รัสเซีย ลดลง 20% เป็นเพราะเศรษฐกิจภายในของประเทศ ส่วนเมียนมามีหน่วยโอนเพิ่มขึ้น 202.6% ไต้หวันเพิ่มขึ้น 61.9% ด้านมูลค่า พม่าเพิ่มขึ้น 142.9% ไต้หวันเพิ่มขึ้น 72% โดยมีสาเหตุมาจาก ปัญหาความขัดแย้งภายในประเทศอย่างรุนแรง ทำให้คนที่มีเงินกระจายออกมาซื้ออสังหาริมทรัพย์ ในไทย โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยว ทำให้ห้องชุดขายดี โดยเฉพาะภูเก็ตที่ยอดโอนสูง นายกมลภพกล่าว
สำหรับชาวต่างชาติ 10 ประเทศแรก ที่มีการโอนห้องชุดมากที่สุด สะสม 3 ไตรมาส(9เดือน) ปี 2567
อันดับ 1 จีน จำนวน 4,386 หน่วย มูลค่า 20,201 ล้านบาท
อันดับ 2 เมียนมา จำนวน 1,050 หน่วย มูลค่า 5,463 ล้านบาท
อันดับ 3 ไต้หวัน จำนวน 612 หน่วย มูลค่า 3,166 ล้านบาท
อันดับ 4 รัสเซีย จำนวน 800 หน่วย มูลค่า 2,750 ล้านบาท
อันดับ 5 สหรัฐอเมริกา จำนวน 436 หน่วย มูลค่า 2,297 ล้านบาท
อันดับ 6 ฝรั่งเศส จำนวน 403 หน่วย มูลค่า 1,763 ล้านบาท
อันดับ 7 เยอรมัน จำนวน 334 หน่วย มูลค่า 1,460 ล้านบาท
อันดับ 8 อินเดีย จำนวน 198 หน่วย มูลค่า 1,248 ล้านบาท
อันดับ 9 สหราชอาณาจักร จำนวน 303 หน่วย มูลค่า 1,201 ล้านบาท
อันดับ 10 ออสเตรเลีย จำนวน 218 หน่วย มูลค่า 1,116 ล้านบาท