นายเอนก อยู่ยืน รองเลขาธิการ และโฆษก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า จากการสอบถามถึงสถานการณ์ภาพรวมบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) และกรณี บล. Z.com นั้น ในปัจจุบันบริษัทหลักทรัพย์ ทุกแห่งสามารถดำรงเงินกองทุนได้สูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำ โดยส่วนใหญ่ (ประมาณ 98% ของ บล.) สามารถดำรงเงินกองทุนได้มากกว่า 2 เท่าของเกณฑ์ขั้นต่ำ แสดงให้เห็นว่าบริษัทมีสินทรัพย์สภาพคล่องสุทธิเพียงพอชำระหนี้สินทั้งหมดที่มีต่อลูกค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 27 พ.ค. 67)
ทาง ก.ล.ต. ได้มีการกำกับดูแล โดยติดตามสถานะการดำรงเงินกองทุนของ บล. เป็นรายวัน และกำกับดูแลระบบงานของ บล. ในหลายด้าน โดยในส่วนของการให้กู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (margin loan) บล. ต้องมีการบริหารความเสี่ยง ตั้งแต่การคัดเลือกหลักทรัพย์ที่ให้มาร์จิ้นได้ (marginable securities) กำหนดอัตรามาร์จิ้นเริ่มต้น (initial margin) ที่เหมาะสม มีการติดตามระดับมาร์จิ้น (maintenance margin) หากต่ำลงถึงระดับที่กำหนด ต้องเรียกหลักประกันเพิ่ม (call margin)
และหากว่าระดับมาร์จิ้นยังต่ำลงไปอีก บล. สามารถบังคับขายหลักประกันได้ (force sell) ทั้งนี้ อัตรามาร์จิ้นที่ บล. กำหนด ต้องไม่ต่ำกว่าอัตราที่ ก.ล.ต. หรือตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนดด้วย นอกจากนี้ ก.ล.ต. ยังติดตามการกระจุกตัวของหุ้นที่ปล่อยมาร์จิ้น สัดส่วนการปล่อยมาร์จิ้นเทียบกับเงินกองทุนของบริษัท เพื่อใช้ในการประเมินความเสี่ยงของ บล. ตลอดจนผลกระทบต่อสภาพตลาด และระบบการซื้อขายโดยรวมด้วย
ในกรณีที่ลูกค้ามีอัตรามาร์จิ้นต่ำจนใกล้ หรือถึงระดับที่ต้องเรียกหลักประกันเพิ่ม บล. มักมีการเจรจากับลูกค้า เพื่อหาแนวทางแก้ไขร่วมกันก่อนที่จะถึงระดับบังคับขายด้วย
ทั้งนี้ ณ วันที่ 27 พ.ค. 67 บล. มีเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ (NC) เฉลี่ยต่อรายที่ 1,520 ล้านบาท และอัตราส่วนเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ (NCR) เฉลี่ยต่อรายที่ 282% (เกณฑ์ดำรง NCR ขั้นต่ำ 7%) และในขณะที่ margin loan ในปัจจุบัน มีหลักประกันที่ครอบคลุมมูลหนี้สูงถึง 3 เท่า
สำหรับกรณี บล. จีเอ็มโอ-แซด คอม (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) นั้น ทาง ก.ล.ต. ได้ติดตามสถานการณ์ และสื่อสารกับ บล. มาโดยตลอด รวมถึงได้กำชับให้การดำเนินการต่างๆ เป็นไปตามสัญญาที่มีกับลูกค้า ในลักษณะที่เหมาะสมและเป็นธรรม
หมายเหตุ : เกณฑ์ขั้นต่ำ กำหนดให้ บล. ดำรง NC > 25 ล้านบาท กรณีประกอบทั้งธุรกิจหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า หรือ > 15 ล้านบาท กรณีประกอบธุรกิจหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าอย่างใดอย่างหนึ่ง และกำหนดให้บริษัทหลักทรัพย์ดำรง NCR > 7% ของหนี้สินทั่วไปและทรัพย์สินที่ลูกค้าวางไว้เป็นประกันเพื่อซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า