จากประเด็นร้อนระหว่างบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF และ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH ที่ออกประกาศควบรวมธุรกิจระหว่างกัน และจัดตั้งบริษัท NewCo. ขึ้นมาใหม่ ซึ่งวิธีควบรวมกิจการครั้งนี้ทำให้ GULF ได้ประโยชน์จาก INTUCH ด้วยการปลดล็อกออกจากการเป็นโฮลดิ้งส์คัมพานี
ทั้งนี้ INTUCH ประกอบธุรกิจด้านการลงทุนในธุรกิจโทรคมนาคม สื่อ เทคโนโลยี และดิจิทัล โดยการถือหุ้นและเข้าไปบริหารงาน (Holding Company) โดยผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 อันดับแรก ได้แก่ GULF สัดส่วน 41.80% รองลงมา SINGTEL GLOBAL INVESTMENT PTE. LTD. สัดส่วน 24.99% และ GULF ENERGY DEVELOPMENT PCL. สัดส่วน 5.57% ตามลำดับ
ผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1/67 ของ INTUCH นั้น มีกำไรสุทธิอยู่ที่ระดับ 3,262 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ทำได้ 2,690 ล้านบาท หลักๆ เป็นผลมาจากส่วนแบ่งผลกำไรของสายธุรกิจ เอไอเอส ที่ในไตรมาสแรกทำได้ 3,418 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ทำได้ 2,732 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามการการเติบโตของรายได้ทั้งจากการให้บริการและการขาย
โดยเฉพาะการเติบโตของรายได้การให้บริการอินเทอร์เน็ตจากการรับรู้รายได้จาก TTTBB รวมถึงการบริหารต้นทุนและค่าใชจ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ สุทธิกับการเพิ่มขึ้นของต้นทุนทางการเงินจากหนี้ที่ใช้สำหรับการซื้อกิจการ TTTBB และ JASIF รวมถึงต้นทุนทางการเงินของหนี้สินตาม สัญญาเช่า ในขณะที่สายธุรกิจของบริษัทมีแนวโน้มการขาดทุนที่ลดลงจาก -40 ล้านบาท ในไตรมาส 1/66 เหลือ -29 ล้านบาทในไตรมาส 1/67
ด้านงบกระแสเงินสดในช่วง 3 ปีย้อนหลัง (2564-2566) ของ INUTCH ประกอบด้วย
ส่วนงบแสดงฐานะการเงินในช่วง 3 ปีย้อนหลัง (2564-2566) ของ INUTCH ประกอบด้วย
อนึ่ง ราคาหุ้น INTUCH ปิดตลาดวันที่ 18 ก.ค.2567 อยู่ที่ระดับ 77.75 บาท ลดลง 1.25 บาท หรือ 1.58% จากราคาปิดตลาดก่อนหน้าที่ระดับ 79.00 บาท โดยในช่วงระหว่างวันราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 78.25 บาท ก่อนที่จะย่อตัวลงมาทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 77.00 บาท ซึ่งมีมูลค่า 1,879.56 ล้านบาท