นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า (7-11 ต.ค.67) คาด SET Index แกว่งตัวในกรอบแคบๆ เนื่องจากในช่วงเดือนก.ย. 67 ที่ผ่านมา ตลาดฯ ได้ซึมซับปัจจัยบวกเฉพาะหน้าไปพอสมควรแล้ว ช่วงนี้จึงอาจเป็นการขยับตัวรับการปรับฐานใหม่
ทำให้การเคลื่อนไหวของ SET Index ในเดือนต.ค. 67 นี้ อาจไม่หวือหวาเหมือนเช่นกับเดือนก.ย. ที่ผ่านมา ที่การลงทุนหุ้นถูกกระจายออกไปในหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม ประกอบกับใกล้เข้าสู่ช่วงการประกาศงบผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ดังนั้น ในการลงทุนอาจต้องพิจารณาในเรื่องของผลประกอบการ บจ. ร่วมด้วย
จะสังเกตได้ว่าในช่วงนี้จะเริ่มเห็นแรงการขายทำกำไรโดยเฉพาะในกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มองว่าจากนี้จึงมองว่ากลุ่มหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กอาจเป็นที่ที่มีความปลอดภัยมากกว่า และไม่ได้อยู่ในจุดสนใจของต่างชาติ เพราะมองว่าในระยะสั้นจะเห็นแรงการขายทำกำไรของนักลงทุนต่างชาติออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหุ้นขนาดใหญ่
หากว่าหลุดพ้นช่วงเดือนต.ค.67 นี้ไปได้ การประกาศงบผลการดำเนินงานของ บจ. จบลง นักลงทุนจะหันกลับมาให้ความสนใจในเรื่องของการเข้าสู่ไฮซีซันของตลาดหุ้นไทยในไตรมาส 4/67 กันมากขึ้น ทำให้เดือนพ.ย.67 จะเห็นการกลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้ง โดยมองกรอบดัชนีแนวรับสัปดาห์หน้าไว้ที่ 1,405-1,435 จุด และกรอบแนวต้านที่ 1,450 จุด
กลยุทธ์ในการลงทุนนั้น มองว่ากลุ่มที่มีพื้นฐานธุรกิจที่ดี และมีแนวโน้มผลการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่องทั้งในไตรมาส 3/67 และ 4/67 ค่อนข้างมีความน่าสนใจ เช่น กลุ่มอาหาร แนะนำ TFG BTG ITC AAI
กลุ่มการท่องเที่ยวและโรงแรม แม้ในไตรมาส 3/67 ยอดนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวจีนลดลง แต่หากไปย้อนดูสถิติจะพบว่า เดือนก.ย.เป็นโลวซีซันของนักท่องเที่ยวจีนอยู่แล้ว และในไตรมาส 4/67 จะเป็นไฮซีซันของนักท่องเที่ยวยุโรป ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อที่สูง จึงมองว่ากลุ่มโรงแรมที่อิงภายในประเทศเป็นหลักมีความน่าสนใจ แนะนำ ERW AOT VRANDA
นอกจากนี้ กลุ่มโทรคมนาคมก็ดูมีสัญญาณที่ดีขึ้น และในไตรมาส 4/67 จะได้รับอานิสงส์จากการเบิกจ่ายงบประมาณลงทุนของภาครัฐ ทำให้คาดว่าผลการดำเนินงานจะมีทิศทางที่ดีขึ้น